ธรรมนัสโอ๋ม็อบไล่ไม่ใช่ศัตรูต้องฟัง! รับพปชร.ไม่รักกัน100% มี4พรรคเป็นคู่ต่อสู้

1671

จากที่วันนี้ 16 ตุลาคม 2564 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น

ทั้งนี้ร.อ.ธรรมนัส เห็นว่าการที่มีมวลชนบางส่วนต่อต้าน ว่า ในฐานะที่ตนเป็นผู้แทนราษฎร ไม่ใช่ว่าตน เป็นผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐแล้วจะไม่มีพรรคพวก คิดว่าการต่อต้านเป็นเรื่องการเมือง ที่มักจะมีกลุ่มต่อต้าน ตนมักจะพูดเสมอว่าหากเข้าสู่เวทีการเมือง ต้องยอมรับความคิดเห็นต่าง และนำสิ่งนั้นมาแก้ไขซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างกรณีหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะหากคิดว่าประชาชนส่วนหนึ่งต้องการอย่างนั้น เราก็ต้องนำมาศึกษา และได้สั่งการให้ไปศึกษาว่าเรื่องอะไร ถือเป็นเรื่องที่ดี เราอย่าไปมองว่าคนที่เห็นต่างจะเป็นศัตรู

ส่วนจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถูกต้องนี่คือธรรมชาติของบ้านเมืองเรา เราจึงต้องนำความคิดเห็นของผู้เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนหรือคนกลางวัย นำมาศึกษาและแก้ไข

เมื่อถามว่า แต่ภาพที่ออกมาให้เห็น ในการลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี วานนี้ (15 ต.ค.) คือเจ้าหน้าที่พยายามกีดกันประชาชนบางส่วนที่ต้องการเข้าถึงนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนไม่เห็น แต่ถ้าตนเดินทางไปกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรามักจะพูดเสมอว่า อย่ากันเขา ให้เขาได้แสดง เพราะถ้ายิ่งกันเหมือนยิ่งไปห้าม

ส่วนกรณีที่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐเคยพูดในที่ประชุมสมาชิกพรรค เรื่องปัญหาภายในพรรคว่าหากไม่สามัคคีกันจะทำให้แพ้พรรคก้าวไกล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ 99% เรารักกัน ยืนยัน ว่าเรารักกันซึ่งจะสังเกตได้เวลาเราทำอะไรจะทำเป็นทีม แท็กทีมกัน เรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นคนใจถึงพึ่งได้ ต้องยึดหัวหน้าเป็นที่ตั้ง ทีมเวิร์คเราต้องไปด้วยกัน มีหลายคนที่ทำงานให้พรรค พลังประชารัฐ เป้าหมายคือเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เพราะฉะนั้นศัตรูการเลือกตั้งทางการเมือง ไม่ใช่พลังประชารัฐด้วยกัน แต่ต้องมองว่าเราจะไปสู้กับศัตรูข้างหน้ากันอย่างไร

เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส เคยระบุใช่หรือไม่ว่าพรรคก้าวไกลคือศัตรูทางการเลือกตั้งอันดับหนึ่ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตน ไม่ได้มองว่าพรรคใดเป็นศัตรูทางการเมือง เมื่อลงสู่สนามเลือกตั้งนั้นคือเราออกสนามรบ ทำอย่างไรที่จะไปชนะใจชาวบ้าน ให้มากาพรรคพลังประชารัฐ เราเพียงเปรียบเปรยเฉยๆ พร้อมกล่าวย้ำว่า เราไม่ได้มองเป็นศัตรู เพราะเมื่อถึงสนามเลือกตั้ง นั่นคือสนามรบทางการเมือง เราจึงต้องมียุทธศาสตร์ และวิธีอย่างไรที่จะเอาชนะ เอาเสียงมาให้ได้

ส่วนที่ยกตัวอย่างพรรคก้าวไกลขึ้นมาแสดงว่ามีคะแนนนิยมที่ดีกว่า พปชร.ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคการเมืองเวลาสู้กันในสนาม มีไม่กี่พรรค เพื่อไทย ก้าวไกล ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ที่จะสู้กันอย่างหนัก ตนไม่ได้มองว่าเป็นก้าวไกลพรรคเดียว

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจังหวัดขอนแก่นเข้าปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรขอนแก่นที่มารอประท้วงการลงพื้นที่ของพล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

โดยพล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้าเจรจากับผู้ชุมนุมให้งดใช้เครื่องขยายเสียงเพราะไม่มีการขออนุญาตและการรวมตัวกันนั้นฝ่าฝืนพ.ร.บ.โรคติดต่อ ระหว่างการเจรจานั้น มีการปะทะคารมและเกิดการกระทบกระทั่ง จนมีผู้ชุมนุมคนหนึ่งบุกเข้าพยายามต่อย พล.ต.ต.ไพศาล จนมีการปะทะผลักดัน ก่อนจะเกิดการชุลมุนเพื่อจับกุมตัวผู้ชุมนุม สถานการณ์วุ่นวาย

ทั้งนี้ตำรวจยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่บุกทำร้ายเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย และได้ให้ผู้ชุมนุมอยู่ในจุดที่จัดไว้ให้ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมมีการปลดป้ายต้อนรับรองนายกรัฐมนตรี และพยายามที่จะบุกวงล้อมของเจ้าหน้าที่มาขอพบ พล.อ.ประวิตร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยชุดควบคุมฝูงชน และ เจ้าหน้าที่ อส. ที่มาประจำโดยรอบสถานที่จัดงานได้ตั้งกำแพงและกำหนดจุดของการชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจพยายามที่จะฝ่าวงล้อมเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสกัดกั้นอีกครั้งจนเกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น ซึ่งผู้ชุมนุมได้ปาถุงสีที่เตรียมมาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนที่จะล่าถอยไปอยู่จุดชุมนุมริม ถ.มิตรภาพ ตามเดิม