พญ.อุดรฯเล่าวันที่ถูกส่งเข้ารักษานักโทษในเรือนจำ นี่คือสาเหตุพระเมตตาของในหลวง

8946

จากที่กรมราชทัณฑ์​ออกเอกสารข่าว โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เกิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

โดยกรมราชทัณฑ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 217 ล้านบาท ในระยะที่ 1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้จัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 756 รายการ พระราชทานให้กับเรือนจำทัณฑสถานเป้าหมาย 25 แห่ง ประกอบด้วยเรือนจำความมั่นคงสูงสุด 5 แห่ง เรือนจำกำหนดโทษสูง 12 แห่ง ทัณฑสถานหญิง 7 แห่ง และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 แห่ง

อีกทั้งในปลายปีนี้โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ได้ดำเนินงานเป็นระยะเวลา 1 ปี พระสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 128 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานโครงการฯ เข้าสู่ระยะที่ 2 สำหรับจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ

ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Nuey Suthida  ซึ่งเป็นของ พญ.สุธิดา พันธุ์พิทย์แพทย์ หรือ หมอนุ้ย โรงพยาบาลอุดรธานี ได้โพสต์ข้อความ พร้อมภาพ เล่าถึงเรื่องราวในการรักษานักโทษจากเรือนจำ โดยเป็นเหตุการณ์ตรงจากตัวเองไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อการรับรู้พระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย จึงขอนำเนื้อหามาเผยแพร่ต่อดังนี้

ออกตรวจคนไข้ … จะพบว่า มีนักโทษในเรือนจำต้องออกมาตรวจที่รพ. ถ้าเป็นผู้ชาย ใส่เสื้อสีฟ้า กางเกงสีน้ำเงิน ผู้หญิงก็คล้ายกัน แต่ใส่ผ้าซิ่นน้ำเงิน ทุกคนล้วนถูกคล้องตรวนที่ข้อเท้าทั้ง2ข้าง
ตรวนหนา หนักมาก เดินลำบาก มักจะเห็นนักโทษ เอา เชือกฟางแดง ผูกตรงกลางตรวนยกขึ้นถือแล้วเดิน (คิดภาพว่า… เหมือนผู้หญิงยกชายกระโปรงเดินแบบนั้น) เวลาเดินเสียงตรวนกระแทกกัน กระแทกพื้นตลอดเป็นจังหวะ …ท่ามกลางผู้ป่วยคนธรรมดาที่ล้นหลามของรพ. เมื่อได้ยินเสียงตรวน ก็แน่นอน คนต้องหันไปมอง

… อับอาย ขายหน้า หน้าร้อน คนมองด้วยสายตาตำหนิบ้าง สายตาสงสัยใคร่รู้ถึงโทษบ้าง บางคนความผิดไม่มาก คนก็ต้องมองว่าเป็นนักโทษอุกฉกรรจ์ ..ผิดร้ายแรงแน่ ใครล่ะอยากเจอสภาวะแบบนี้ ป่วยก็ป่วย แต่ก็จำใจมา….
ผู้คุม2ท่านต่อนักโทษ1ท่าน… ตรวจแผนกไหนก็ไปแผนกนั้น.. เราเป็นหมอ… อึดอัดใจมากเพราะว่า นัดติดตามอาการหลังให้ยาไม่ได้ นักโทษบอกบางครั้งผู้คุมไม่ว่าง ก็ไม่ได้มา….อดทนเอา

คุณหมอ ขอยาพาราเยอะหน่อยได้ไหม ยาแก้หวัด ยาแก้ปวด ยานวด ยาปวดเมื่อย..”. (เราเป็นหมอตา…อยากปฏิเสธด้วยข้อกำหนดรพ. เป็นหมอตารักษา ไข้หวัดยังไง…)
“ในเรือนจำก็มีห้องพยาบาลไม่ใช่เหรอคะ”
“มี..คุณหมอ แต่ขอยายากมาก…เป็นหวัดเป็นไข้ กว่าจะได้ยามา แล้วถ้าเป็นยาของตัวเอง เราใช้ได้เลยไม่ต้องขอ”

นี่ล่ะมั้งเป็นสาเหตุให้ในหลวง ร.10 พระองค์ท่านให้ความเมตตาแก่นักโทษในเรือนจำ เมื่อครั้งมีประกาศให้หมอ…ทุกแผนก จัดเวร ลงชื่อเข้าไปตรวจในเรือนจำ โดยครบทุกสาขา…แม้กระทั่งหมอตาก็ต้องไปนะ….ทุกเดือน ทุกคนตกใจมาก เราก็คนธรรมดา กังวลเรื่องการติดเชื้อ เรื่องความปลอดภัย แต่เมื่อมาคิดว่า ผู้คุมสองคนพาคนไข้นักโทษออกมาตรวจทีละคน วันนึงคงตรวจได้ไม่ถึง10คน แต่ถ้าหมอเข้าไปตรวจเองในเรือนจำ คงตรวจได้หลายสิบคน

หมอตาเข้า ไปตรวจต้อ ไปตรวจเบาหวานขึ้นตา ปัจจุบันก็ยังต้องไปนะ ในหลวงยังพระราชทานยาให้เรือนจำด้วย… มีกี่คนที่ทราบถึงพระเมตตาของในหลวง ….
หมอตาอยากบอก…คนคิดไม่ดีกับในหลวงนะ …คนที่กล่าวหาว่า พระองค์ท่านไม่ทำอะไรให้ประเทศ ..วันนี้ท่านทำอะไรให้ประเทศแล้วหรือยัง….
ตอนCovidในหลวงพระองค์ท่านก็เมตตารพ.อุดร.. ให้หน้ากาก อุปกรณ์ป้องกันแก่หมอพยาบาล พระราชทานห้องตรวจปลอดเชื้อให้หมอพยาบาลปลอดภัย…มีนักการเมืองคนไหนให้เราบ้าง….ในหลวงผู้ปิดทองหลังพระ

ขอบคุณที่มา : เฟซบุ๊ก Nuey Suthida