โควิด-19 ถล่มสหรัฐ?!? ติดเชื้อต่อวันทะลุ 143,231 รายเสียชีวิตพุ่ง 2,005 ราย คาดฤดูหนาวยิ่งสาหัส 

1738

ฤดูหนาวมาเยือน เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่เลวร้ายที่สุด สำหรับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา วันพุธที่ผ่านมา ยอดคนติดเชื้อทั่วประเทศวันเดียวทะลุ 143,231ราย และ เสียชีวิต 2,005 ราย ยอดติดเชื้อพุ่งทุกวันใน 49 มลรัฐ นายแพทย์เฟาซี่และผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขชี้ว่าเพราะอากาศหนาวเย็น ทำให้คนอเมริกันรวมตัวกันอยู่บ้านมากขึ้นทำให้การระบาดรอบสองแพร่หนักหนาสาหัส ที่สำคัญความขัดแย้งและการชุมนุมที่ดำเนินมาต่อเนื่องก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มความเสี่ยงยังไม่มีแนวโน้มยุติลง 

ในเดือนพฤศจิกายนซึ่งเริ่มฤดูหนาวของสหรัฐ เมื่อวันพุธ (11 พ.ย.2563) มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกินส์รายงาน พบผู้ป่วยติดเชื้อทั่วประเทศวันเดียวทะลุ 143,231 นายและเสียชีวิตพุ่ง 2,005 รายทำลายสถิติ แนวโน้มพุ่งสูงไม่หยุด นับเป็นวันที่เก้าที่ติดเชื้อทะลุหลัก 100,000 รายใน 1 วัน และใน 10 วันของเดือนพฤศจิกายนนี้มีผู้ป่วยมากกว่า 1 ล้านคน

ยอดรวมของประเทศสหรัฐอเมริกาปัจจุบันนี้มากกว่า 10.3 ล้านราย และเสียชีวิต 241,910 ราย ซึ่งยังคงสูงที่สุดในโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวว่าช่วงฤดูหนาว ผู้คนจะต้องมารวมกันในบ้าน และสาธารณชนยังมีความขัดแย้งเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยอยู่

ดร.แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อระดับสูง กล่าวว่า อเมริกาสามารถชลอการติดเชื้อโดยการ สวมหน้ากากอนามัจ ไม่รวมกลุ่มกันขนาดใหญ่ ทำกิจกรรมนอกบ้าน และรักษาระยะห่าง ถ้าทุกคนทำได้แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ “เราควรหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์เพราะ คนอเมริกันไม่ชอบล็อกดาวน์ ถ้าเราทำอย่างที่แนะนำนี้ได้ก็ไม่ต้องล็อกดาวน์เมือง ผมแน่ใจ” 

“มาตรการตรงข้ามการล็อกดาวน์คือ ต้องเร่งตรวจวัดทางสุขภาพของสาธารณชน ถ้าทุกคนทำได้ก็จะได้ประโยชน์ทั้งด้านจิตวิทยาและด้านเศรษฐกิจด้วย” นายแพทย์เฟาซีกล่าวกับนสพ.เอบีซีเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี(12 พ.ย.2563)ที่ผ่านมา

เขากล่าวถึงวัคซีนว่าควรทดสอบเป็นขั้นเป็นตอน กล่าวคือในเดือนธันวาคม จะทดสอบฉีดให้คนกลุ่มเป้าหมายระดับสูงและจะฉีกให้ทุกคนได้แน่นอนในไตรมาสที่สองของปี 2021 “วัคซีนอยู่ในขั้นทดสอบระดับสามและมีผลตอบรับเป็นบวก และเราทำตามมาตรการสาธารณสุขที่กล่าวข้างต้น เราจะสามารถสถานการณ์นี้ไปได้ ผมให้สัญญา”

ยอดพุ่งทุกวันใน 49 มลรัฐ
การเสียชีวิตรายวันเฉลี่ยวันละ 39 รายแต่มีบางเคสบางเมือง พุ่งทะลุกว่า 1,000 รายไปถึงกว่า 2,000 รายแล้ว
นอร์ท-เซาท์ ดาโกตา และวิสคอนซิน เป็นรัฐที่เลวร้ายที่สุด และเท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเก็นเมืองที่มีผู้ติดเชื้อ 1 ล้านราย

แคลิฟอร์เนียกำลังถึง 1 ล้านรายไล่หลังมา มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกินส์รายงานล่าสุดยอดอยู่ที่ 995,575 ราย ที่ลอดแองเจลิสใช้ โรงยิมดอดเจอร์เป็นศูนย์ตรวจเชื้อโควิด-19
หน่วยปฏิบัติการด้านโควิด-19ของทำเนียบขาวรายงานเมื่อวันอังคาร (10 พ.ย.2563) “มีการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องและอัตราเร่ง ในกว่าครึ่งของมลรัฐต่างๆทั่วประเทศ ขณะที่อุณหภูมิเย็นลงเรื่อยๆและคนอเมริกันต้องเข้าไปอยู่ในบ้านหนีหนาว”

ในกลุ่มรัฐซันเบลท์ ซึ่งประกอบด้วยรัฐฟลอริดาจอร์เจียเซาท์แคโรไลนาแอละแบมามิสซิสซิปปีลุยเซียนาเท็กซัสนิวเม็กซิโกแอริโซนาเนวาด้าและแคลิฟอร์เนีย ข้ามไปถึงตอนใต้ เป็นกลุ่มรัฐที่ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมสูงมา (รายงานของซีเอ็นเอ็นกล่าว) 
ศูนย์ตรวจเชื้อโควิด-19 รายงานว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพุ่งแตะ 65,368 คนในวันพุธ(11 พ.ย.2563) จากวันก่อนหน้า 61,964 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าในรอบ 1 เดือน

ที่นอร์ทดาโกตา ผู้ว่าการรัฐ, โดว์ เบอร์กัม กล่าวว่า บุคคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อโควิด-19 จะได้รับการอนุญาตให้ทำงานในโรงพยาบาลรักษาโควิด-19 ได้ในกรณีที่ขาดบุคคลากร

ที่นิวยอร์ก ที่ซึ่งระดับการติดเชื้อพุ่งสูง ผู้ว่าการรัฐ, แอนดรูว์ โควโม ประกาศเมื่อววันพุธ(11 พ.ย.2563)ว่า ร้านอาหาร ภัตตาคาร บาร์และโรงยิม ต้องปิดตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม (10pm.) เริ่มวันนี้(13 พ.ย.2563) และกำหนดสมาชิกในบ้านชุมนุมกันได้ไม่เกิน 10 คน

“ถ้าคุณดูที่แหล่งที่มาของเคสผู้ป่วยว่ามาจากที่ไหนบ้าง ถ้าคุณทำการตรวจสอบการติดเชื้อ คุณจะเห็นว่าการติดเชื้อมาจากบริเวณหลักๆคือ ในสถานที่ที่มีการเสริฟแอลกอฮอล์ โรงยิมและบ้านที่คนรวมตัวกันอยู่” โควโมกล่าว
นิวยอร์กเป็นเมืองที่เป็นจุดติดเชื้อเลวร้ายที่สุด ที่ไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดในช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิ แล้วได้รับการควบคุม ตอนนี้ต้องเร่งปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งให้แน่ใจว่าเมืองต่างและทั่วประเทศจะไม่ต้องเผชิญสภาวะ “การระบาดโควิด-19รอบสอง”