นโยบายแทรกแซง ยุแยงให้แบ่งแยกแล้วขายอาวุธของสหรัฐ ยังเดินหน้าอย่างเข้มข้น ทำน่านน้ำทะเลจีนใต้ร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลสหรัฐอนุมัติขายจรวดมิสไซล์ฮาร์พูน,อาวุธหนัก และระบบป้องกันภัยตามแนวชายฝั่งให้ไต้หวัน มูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 75,120 ล้านบาท จีนตอบโต้คว่ำบาตรบริษัทยักษ์ขายอาวุธอเมริกัน โบอิ้ง, ล็อคฮีท มาร์ตินและเรย์เธียนทันที และอาจแถมระงับขายแร่พิเศษ(Rare Earth) กดดันห่วงโซ่อุปทานการผลิตอุตสาหกรรมอาวุธหนักของบริษัทสหรัฐอีกครั้ง
รัฐบาลสหรัฐประกาศอนุมัติการขายระบบป้องกันภัยตามแนวชายฝั่งมูลค่า 2.4 พันดอลลาร์สหรัฐหรือราว 75,120 ล้านบาทให้กับไต้หวัน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า การขายระบบป้องกันชายฝั่งด้วยจรวดฮาร์พูนให้ไต้หวัน จะช่วยพัฒนาความมั่นคงของผู้รับ และช่วยรักษาเสถียรภาพทางการเมือง ดุลยภาพทางทหาร และความก้าวหน้าในภูมิภาค ทั้งนี้ภายใต้ข้อตกลงการขายระบบป้องกันภัยตามแนวชายฝั่ง (HCDS) ดังกล่าวยังรวมถึงขีปนาวุธเอ็มจีเอ็ม-84 แอล ฮาร์พูน ซึ่งเป็นระบบที่เป็นอาวุธนำวิถีพื้นสู่พื้นและอากาศสู่พื้น สำหรับโจมตีเรือรบผิวน้ำโดยมีพิสัยไกลถึง 278 กิโลเมตรของบริษัทโบอิ้ง
จำนวนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สหรัฐขายให้ไต้หวัน รายงานโดยนสพ.วอลสตรีทเจอร์นัลว่า -400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อโดรนสังหาร “เอ็มคิว-9 รีพเปร์โดรน”-7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับจรวดมิสซายล์ฮาร์พูน 7 ลูก-15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดนี้ลงนามโดยปธน.ทรัมป์คนเดียว
จีนแบนบริษัทโบอิ้ง-ล็อคฮีท-เรย์เธียน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศตอบโต้กลับการขายอาวุธครั้งล่าสุดนี้ด้วยการคว่ำบาตรบริษัทสหรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายอาวุธให้ไต้หวันทันที อาทิ ล็อคฮีดมาร์ติน โบอิ้งดีเฟนซ์ และเรย์เธียน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า จีนได้ดำเนินการดังกล่าวเพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติของจีน อย่างไรก็ดีไม่ได้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับการคว่ำบาตรครั้งนี้แต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งสัปดาห์ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเพิ่งประกาศอนุมัติการขายอาวุธมูลค่ารวม 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับไต้หวันไป ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศตอบโต้กลับการขายอาวุธครั้งล่าสุดนี้ด้วยการคว่ำบาตรบริษัทสหรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายอาวุธให้ไต้หวันทันที อาทิ ล็อกฮีดมาร์ติน โบอิ้งดีเฟนซ์ และเรย์เธียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า จีนได้ดำเนินการดังกล่าวเพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติของจีน อย่างไรก็ดีไม่ได้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับการคว่ำบาตรครั้งนี้แต่อย่างใด
ถ้าจีนเลิกขาย “แร่พิเศษ:rare earth”สหรัฐกระทบหนักกว่า
ด้วยห่วงโซ่การผลิตอุตสาหกรรมหนักผลิตอาวุธของสหรัฐ ต้องใช้แร่พิเศษจำนวนมาก เป็นหมากเด็ดที่จีนเตรียมเล่นงานสหรัฐอีกไม่นานนี้ เพื่อตอบโต้หนุนไต้หวันแยกดินแดน
รายงานห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกบ่งชี้ว่า ประเทศจีนมีแร่พิเศษจำนวนมากที่สุดในโลก 85% ของRareEarth โลกในปี 2018 อเมริกาสั่งซื้อถึง 80% จากจีน ซึ่งวอชิงตันรู้ดีว่า เมื่อไหร่จีนใช้มาตรการนี้ สหรัฐจะกระทบกระบวนการผลิตจำหน่ายอาวุธอย่างมาก แสดงว่าจีนเปิดช่องแต่เตรียมพร้อมลงดาบ
