จากที่วันนี้ 22 พฤศจิกายน 2564 เฟซบุ๊ก เชียร์ลุง ได้โพสต์ข้อความพร้อมแบนเนอร์ เคมเปญ ล่าล้านชื่อไล่แอมเนสตี้ พ้นประเทศไทย ซึ่งมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักนั้น
ทั้งนี้เฟซบุ๊ก เชียร์ลุง ได้ระบุรายละเอียดถึงกิจกรรมดังกล่าวในวันนี้ว่า
ร่วมขับไล่ แอมเนสตี้ กดที่ลิงค์นี้
https://forms.gle/raNVAGAT2JVzN9AF8
GET OUT AMNESTY!!
เพียงพิมพ์ชื่อ-นามสกุล และกด ‘ส่ง’ ลุย
“แรมโบ้” พร้อมลุยแคมเปญ “ไล่แอมเนสตี้” ม้วนเดียวจบ!!
ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ขอเชิญชวนประชาชนคนไทยทั้งหมด “ร่วมลงชื่อ 1,000,000 รายชื่อ” เพื่อยื่นเสนอขับไล่ “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย” ไม่ให้มาแทรกแซงประเทศไทยได้อีกต่อไป
เหตุจากองค์กรอุปโลกน์นี้อ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนสิทธิมนุษยชน แต่กลับมีพฤติกรรมสนับสนุนกลุ่มที่ละเมิดอำนาจศาล ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งแทรกแซงการปกครอง ที่สำคัญองค์กรแห่งนี้เป็นองค์กรต่างชาติไม่สมควรเข้ามายุ่งวุ่นวายในสถานการณ์ประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง
ร่วมหยุดการแทรกแซงประเทศไทย ขับไล่แอมเนสตี้ ได้ที่ลิงค์นี้ >>
https://forms.gle/raNVAGAT2JVzN9AF8
GET OUT AMNESTY!!
ขณะที่นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงแอมเนสตี้ ในวันนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับข้อกฏหมายมีความน่าสนใจบางส่วนดังนี้
เอา AMNESTY เครื่องมือแทรกแซงกิจการภายในของประเทศมหาอำนาจออกไปจากประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตย คุณพูดอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และไม่ละเมิดกฎหมาย
แต่การพูดและการกระทำของรุ้ง รวมทั้งแกนนำและผู้ชุมนุม ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นและละเมิดกฎหมาย สิทธิเสรีภาพ ตามหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
1 สิทธิ คือการอำนาจที่จะกระทำการใด ๆ ได้อย่างอิสระ 2 เสรีภาพ คือ การใช้สิทธิ ได้อย่างอิสระ 3 แต่การใช้สิทธิและเสรีภาพนั้นจะต้องไม่กระทบหรือละเมิดสิทธิของผู้อื่น
รัฐธรรมนูญกำหนดว่า มาตรา ๒ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
มาตรา ๕ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทําใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทํานั้นเป็นอันใช้บังคับ มิได้
รุ้งปลุกระดมให้ประชาชน ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ คือการละเมิดกฎหมาย ถึงขั้นล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ไม่ว่าจะมองในแง่สิทธิมนุษยชนหรือในแง่กฎหมาย การกระทำของ รุ้ง และแกนนำผู้ชุมนุมทุกคน รวมทั้งผู้ชุมนุมประท้วง ล้วนเป็นความผิดทั้งในหลักการของสิทธิมนุษยชน และเป็นการกระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น
แต่ AMNESTY องค์กรและนักสิทธิมนุษยชน รัฐบาลของประเทศมหาอำนาจ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การสหประชาชาติ กลับให้การสนับสนุนแกนนำและผู้ชุมนุมประท้วงที่ทำความผิดตามหลักการของสิทธิมนุษยชนสากล และเป็นการกระทำผิดกฎหมายของไทย
พวกเขาเหล่านั้นต้องการอะไร ต้องการแทรกแซงกิจการภายใน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือต้องการสนับสนุนการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ ใช่หรือไม่
เอา AMNESTY เครื่องมือแทรกแซงกิจการภายในของประเทศมหาอำนาจออกไปจากประเทศไทย”
