จากการกรณีการชุมนุมของกลุ่ม “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ที่ใช้ชื่อการชุมนุมว่า “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” และก่อนหน้าที่จะมีการปักหมุดคณะราษฎร นั้นได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนบริเวณหน้าประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีรายงานว่า หนึ่งในผู้ที่ไปชุมนุมเกิดถูกประตูหนีบ
โดย นายณัฐชนน พยัฆพันธ์ แกนนำฝ่ายตะวันออกได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมทั้งระบุว่า “คารวะหัวใจพี่หนึ่งครับ วันนี้โดนประตูธรรมศาสตร์หนีบในขณะดูแลความปลอดภัยให้ไมค์ ขอให้พี่หนึ่งหายไว ๆ ด้วยรักครับ #19กันยาทวงอํานาจคืนราษฏร”
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ทางด้าน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้แชร์ภาพ พร้อมทั้งระบุว่า “ถ้าธรรมศาสตร์ไม่ปิดประตู จะไม่มีใครถูกประตูหนีบ”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า สำลักเสรีภาพ? การเรียกหาเสรีภาพ ต้องเข้าใจให้ตรงกันนะ เสรีภาพต้องมีขอบเขตภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่ใช่เสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ มิเช่นนั้น ก็กลายเป็นอนาธิปไตย Anarchy
แปลกใจที่เห็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคนรุ่นใหม่ เอาสีไปป้ายหน้ากองพันทหารม้าที่ 4 ทหารคนไหนทำอะไรผิด แจ้งความสิ มีช่องทางในการเอาคนผิดมาลงโทษ หรือกรณี ไปตัดกุญแจประตูธรรมศาสตร์แล้วเกิดอุบัติเหตุ แต่กลับเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยรับผิดชอบ หลักคิดอยู่ตรงไหน
อเมริกาจัดการกับม็อบยังไง ตำรวจ ทหารสลายม็อบ มีคนเจ็บคนตายรุนแรงกว่ารัฐบาลไทยที่ม็อบอ้างว่าเป็นเผด็จการเสียอีก แปลว่า การ ม็อบต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ใช่ทำอะไรได้ตามใจชอบ อย่าปล่อยให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย อย่าปล่อยให้พวกมากลากไป ตั้งสติ คดีติดตัวมันมากเกินพอแล้วนะ
ที่มา : Nantiwat Samart