จากกรณีที่นางภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก อดีตนางสาวไทยและมิสยูนิเวิร์สคนที่ 2 ของไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก บอกว่ารู้สึกเจ็บปวดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเตือนสติคนไทยให้ฉุกคิดถึงวัฒนธรรมอันน่าภาคภูมิใจของไทย และในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงทุ่มเทเพื่อพสกนิกรชาวไทย
ต่อมาปรากฏว่า นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ผู้ลี้ภัยการเมืองในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โพสต์คอมเมนต์ตำหนิ ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ว่า “ตื่นขึ้นมา พวกสวยใสไร้สมอง (Bimbo) รัชกาลที่ ๙ สร้างความแตกแยก โตได้แล้ว หัดอ่านให้มากกว่านี้ อย่าอายตัวเอง” ทำให้ทางด้าน ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ตอบกลับด้วยความสุภาพระบุว่า “ว้าว ฉันเขียนเกี่ยวกับความรักที่มีต่อแผ่นดินแม่ แต่คุณกลับมาดูถูกฉัน? นี่คุณกำลังโกรธเกลียด ดูหมิ่น ไม่สนใจในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นไทย ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ทำไมไม่ทำด้วยความเคารพ ประวัติศาสตร์ทุกอย่าง รวมทั้งตัวคุณเอง สามารถหยิบมากลั่นกรองได้ แต่ทำไมไม่เดินหน้ายึดมั่นในคุณธรรมที่น่าภาคภูมิใจ มากกว่าเอาแต่ประณามทั้งหมด ฉันส่งความสันติ ความรัก และความเข้าใจมาให้นะคุณ”
อนึ่งคำว่า Bimbo ที่นายปวินกล่าวถึง แปลว่า หญิงสาวที่มีเสน่ห์ทางเพศแต่ไม่ฉลาด หรือถ้าเป็นความหมายอย่างไม่เป็นทางการ (สแลง) แปลว่า คนที่สวยแต่ไร้สมอง
ล่าสุดนายนายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “หลังจากโดนคุณปุ๋ยลากไปตบกลางสี่แยก แบบตบจูบๆ ก็รีบวิ่งกลับไปเปิดบ้าน เพื่อโม้ให้ลูกบ้านฟัง (เพราะลูกบ้านส่วนใหญ่ อ่านอังกฤษไม่ออก ไม่รู้ว่าใครตบใคร ใครเบิกเนตร ใครเบิกทวาร ไปตอแหลต่อว่า…ตัวเองไปตบคุณปุ๋ยมา ทั้งๆ ที่เลือดยังกบปากตัวเองอยู่ เผื่อใครยังไม่ทราบข่าว”