“มาครง” เตือนอียูแบนก๊าซรัสเซีย ไม่รอดแน่ ผวาประชากรลำบาก เตรียมทรุด อยู่ได้ไม่ถึงฤดูหนาวปีนี้!?

1320

หลังจากที่นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของฝรั่งเศส ชนะการเลือกตั้งโดยมีชัยเหนือนางมารีน เลเปน คู่แข่ง ส่งผลให้นายมาครงได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ชนะเลือกตั้งได้ดำรงตำแหน่งต่อ นับตั้งแต่ที่นายฌัก ชีรัก ทำได้ในปี 2002 โดยผลการนับคะแนนพบว่านายมาครงชนะนางเลอเปนด้วยคะแนนเสียง 58.55% ต่อ 41.45% ซึ่งถือว่าคะแนนห่างกว่าที่มีการคาดการณ์

และการชนะเลือกตั้งในสมัยที่ 2 นี้ ทำให้หลายประเทศจับตามองว่า มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส จะถือเป็นตัวแปรอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดยื้อ หรืออาจจะมีท่าทีช่วยผลักดันให้กลุ่ม EU ลดการแซงชั่นลง ก็เป็นไปได้ทั้งสองทาง

เนื่องจากก่อนหน้านี้เอ็มมานูเอล มาครง ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา ระบุว่า สหภาพยุโรปจะไม่สามารถอยู่รอดถึงฤดูหนาว หากปราศจากก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ท่ามกลางปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย บรรดาสมาชิกอียูกำลังหารือกันเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่รอบที่ 6 เล่นงานมอสโก ซึ่งรายงานข่าวระบุว่า ในนั้นอาจรวมถึงการกำหนดข้อจำกัดบางอย่างเกี่ยวกับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย

ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอุปทานก๊าซที่อาจลดน้อยลง มาครง ส่งเสียงเตือนว่า “เราจะไม่เห็นผลลัพธ์ของสิ่งนี้ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนปี 2022 (เราได้เติมเต็มคลังสำรองแล้ว) แต่ในฤดูหนาวหน้าทุกอย่างจะเปลี่ยนไป หากไม่มีก๊าซรัสเซียอีกแล้ว” เขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Ouest France ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.)

มาครง ซึ่งล่าสุดคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชี้แจงอย่างชัดเจนด้วยว่าการกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าก๊าซธรรมชาติของรัสเซียโดยสิ้นเชิงไม่ได้อยู่ในการหารือของอียู เนื่องจากอียูเข้าใจอย่างเต็มเปี่ยมว่ามันจะก่อความยากลำบากมหาศาลแค่ไหน “มันอาจเป็นหัวข้อที่จะอยู่บนโต๊ะสนทนาในอนาคต ไม่ใช่วันนี้ ถ่านหินและน้ำมันอยู่บนโต๊ะ แต่ไม่ใช่ก๊าซ”

ขณะเดียวกัน เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซีย เขียนบนเทเลแกรมในวันศุกร์ (22 เม.ย.) แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับถ้อยแถลงของคณะกรรมาธิการยุโรปที่บ่งชี้ว่าอาจมีหนทางจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติของรัสเซียเป็นรูเบิล โดยไม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตร “เราชื่นชมความคงเส้นคงวาและความซื่อสัตย์ของพันธมิตรยุโรปของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่า จากข้อมูลของไอเอ็มเอฟ ยุโรปจะสามารถอยู่รอดโดยปราศจากก๊าซของเราได้ไม่น่าจะเกิน 6 เดือน แต่ขอพูดจริงจังเลยนะ พวกเขาอยู่รอดได้ไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำ”

จากคำกล่าวของ อัลเฟรด แคมเมอร์ ผู้อำนวยการแผนกยุโรปของไอเอ็มเอฟ เผยว่า หากแหล่งก๊าซของรัสเซียถูกตัดขาด ยุโรปจะสามารถอยู่รอดได้ 6 เดือน ซึ่งต้องขอบคุณ “อุปทานทางเลือกอื่น ๆ และการใช้คลังสำรองที่มีอยู่ในปัจจุบัน” อย่างไรก็ตาม หากการตัดขาดก๊าซลากยาวไปเข้าสู่ฤดูหนาว หรือนานกว่านั้น เมื่อนั้นจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้นักการทูตระดับสูงของสหภาพยุโรป ยังเปิดเผยว่าพวกเขาล้มเหลวในการบรรลุฉันทมติเกี่ยวกับการห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย แต่แสดงความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงในอนาคตอันใกล้นี้ ในช่วงต้นเดือนเมษายน สหภาพยุโรปประกาศว่าสมาชิกของพวกเขาได้ตกลงกันว่าจะห้ามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียและมีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ ประมาณการว่าการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียของอียู มีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านยูโรต่อปีเลยทีเดียว