สหรัฐจนมุม!ขนน้ำมันสำรองใช้รอบหลาย10ปี ส่อโดดเดี่ยว พันธมิตรทยอยลอยแพ

2351

จากกรณีการคว่ำบาตรรัสเซีย จนนำมาซึ่งการตอบโต้ให้ใช้เงินรูเบิลซื้อก๊าซและพลังงาน ทำให้หลายประเทศได้รับความเดือดร้อน และหันกลับมายกเลิก แต่ก็ยังคงมีบางประเทศเดินหน้าต่อไป อย่างสหรัฐที่เป็นตัวตั้งตัวตีก็กำลังขาดแคลนน้ำมันเช่นกัน!!!

ล่าสุดวันนี้ 02 เมษายน 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์อเมริกา ที่มีน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งผ่านการโพสต์เฟซบุ๊กว่า “การขายน้ำมันสำรอง กระทบศักยะสงครามของสหรัฐ!!!!

1.สหรัฐสำรองน้ำมันมากที่สุดของโลก วัตถุประสงค์หลัก เพื่อใช้ในทางการทหาร และความมั่นคงของประเทศ หรือที่เรียกว่า เพื่อ ศักยะสงครามของสหรัฐ เพราะสหรัฐมีกองเรือถึง 10 กอง มีแสนยานุภาพทางอากาศจำนวนมาก และการใช้น้ำมันในประเทศก็มีจำนวนมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก

หากขาดน้ำมันเสียแล้วก็เหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง ดังนั้น หลายทศวรรษมาแล้วที่สหรัฐไม่เคยนำน้ำมันสำรองออกมาใช้เลย ต่อให้น้ำมันราคาแพงเท่าใด ก็ต้องขวนขวายจัดหามาใช้ และไม่ยอมใช้น้ำมันสำรองเป็นอันขาด

2.หลังจากคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดของโลกกระทบต่อศักยะสงครามของสหรัฐ และพันธมิตรนาโต้อย่างรุนแรง กระทั่งเกิดโกลาหลทั่วยุโรปในขณะนี้ และหลายประเทศนาโต้กำลังแตกแถว และร่วมมือกับรัสเซียเข้าสู่การจัดระเบียบโลกใหม่ที่รัสเซียกำหนดขึ้น

สหรัฐพยายามแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมัน โดยการบีบบังคับให้ซาอุฯ และพันธมิตรผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ผลเพราะซาอุฯ และพันธมิตรกลับลำพลิกขั้วหันไปร่วมมือกับรัสเซีย จีน และอิหร่าน ไม่ยอมผลิตและขายน้ำมันเพิ่มให้

ไปงอนง้อขอซื้อจากอิหร่าน และเวเนฯ ก็ไม่ได้ผล เมื่อเข้าตาจนเช่นนี้ จึงไม่มีทางเลือกอย่างอื่น จึงต้องนำน้ำมันสำรองออกมาใช้เป็นครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปี

3.สหรัฐคงคาดว่า การนำน้ำมันสำรองมาใช้นั้นจะเป็นเรื่องชั่วคราว แต่สถานการณ์ขณะนี้ สหรัฐไม่มีทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันได้ และไม่มีทางหาเพิ่มได้จากแหล่งอื่น นอกจากต้องนำน้ำมันสำรองในประเทศมาใช้ และจะใช้ไปอีกนานเท่าใด ย่อมยากที่จะคาดเดา

การนำน้ำมันสำรองมาใช้จึงเป็นการส่งสัญญาณอย่างอัตโนมัติให้กับพันธมิตรของสหรัฐอ่านนัยยะได้ว่า สหรัฐกำลังอับจนแล้ว และย่อมเป็นสัญญาณให้กับฝ่ายรัสเซียทราบว่ามาตรการที่ตอบโต้กับการคว่ำบาตรนั้นได้ผล จะเป็นแรงบรรดาใจให้กับการกระชับเกลียวขันน็อตที่หนักหน่วง และกว้างขวางมากขึ้น

ซึ่งขณะนี้ก็กระทบไปถึงเรื่องอาหาร และน้ำมันที่ใช้ในการทำอาหารแล้ว กระทั่งสหรัฐต้องยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรปุ๋ยกับรัสเซียชนิดหน้าแตกไม่รับเย็บไปแล้ว

4.สหรัฐยิ่งนำน้ำมันน้ำมันสำรองมาใช้มากเท่าใด ก็จะกระทบกับศักยะสงครามของสหรัฐมากเท่านั้น และถ้าปริมาณสำรองลดลงถึงระดับหนึ่งก็จะทำให้สหรัฐไม่สามารถทำสงครามได้ เพราะถ้าขืนทำไปครึ่งๆ กลางๆ และขาดน้ำมันใช้ แสนยานุภาพของสหรัฐก็จะตกเป็นเป้านิ่งในทุกสมรภูมิ

ดังนั้น ปัญหาการใช้น้ำมันสำรองของสหรัฐจะกลายเป็นแรงกดดันที่หนักหน่วงต่อคณะเสนาธิการร่วม และแก่คณะฝ่ายบริหารของไบเดน ซึ่งจะมีอนาคต 2 อย่างเท่านั้น คือ

~ตัดสินใจชิงทำสงครามแบบสายฟ้าแลบ แต่ก็ไม่ง่าย เพราะรัสเซียจีน อิหร่าน เกาหลีเหนือเตรียมรับมือพร้อมอยู่นานแล้ว เหลืออีกทางเดียวคือ

~ยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซีย และยอมรับการจัดระเบียบโลกใหม่ที่รัสเซีย จีน จะเป็นผู้นำต่อไป