ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐและพันธมิตรตะวันตก อินเดียได้ตัดสินใจกระชับความสัมพันธ์ด้านพลังงานกับรัสเซียเป็นสองเท่า รัฐมนตรีต่างประเทศของอินเดียบอกกับรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ ในกรุงเดลีเมื่อวันพฤหัสบดีว่ายุโรปได้เพิ่มการซื้อน้ำมันดิบและก๊าซจากรัสเซีย 15 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา และกำลังจะซื้อมากขึ้น ที่ไม่พอใจสุดๆก็คงเป็น รองที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐ ที่มาถึงก็บังอาจขู่อินเดียผ่านรมว.พาณิชย์ว่าถ้าอินเดียยังสนับสนุนรัสเซียจะต้องเจอมาตรการลงโทษหนัก
เฉียดกันไม่กี่ชั่วโมง รมว.ต่างประเทศรัสเซียมาเยือนอินเดีย ได้พบทั้งรมว.ต่างประเทศและนายกรมว.นเรนทรา โมดี ขณะที่คนของสหรัฐไม่ได้เจอยังไม่รู้ตัว รมว.ต่างประเทศอินเดียเลยพูดออกสื่อว่า ทียุโรปซื้อได้ไม่อั้นฉะนั้นอย่ามาสั่งและไม่ต้องขู่เพราะอินเดียไม่เปลี่ยนใจ แถมประกาศอีกว่าภายในสัปดาห์นี้จะประกาศระบบเชื่อมโยงเงินรูปี-รูเบิล-หยวนอย่างแน่นอน
วันที่ 1 เม.ย.2565 สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและรัสเซียทูเดย์รายงานว่ารัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกล่าวถึงความร่วมมือทวิภาคีของอินเดียกับรัสเซียเติบโตอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่และกระจายความหลากหลายทั้งเศรษฐกิจ การทูตและความมั่นคง
สุพรามัณยัม ไจชางการ์(Subrahmanyam Jaishankar)รมว.ต่างประเทศอินเดียกล่าวเปิดการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเซอร์เก ลาฟรอฟ( Sergey Lavrov) ในกรุงนิวเดลี
ความเห็นของไจชางการ์ เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากดาลีป ซิงห์(Daleep Singh) รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯขู่นิวเดลีถึง “ผลที่ตามมา” หากพยายาม “หลบเลี่ยงหรือทดแทน” การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย
ไจชางการ์ตอกกลับว่า นอกจากการเพิ่มการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียแล้ว ทั้งสองประเทศกำลังเจรจาข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลสำหรับอินเดียในการนำเข้าปุ๋ยเพิ่ม ซึ่งล่าสุดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเว้นปุ๋ยและแร่รัสเซียจากการคว่ำบาตร ตามคำสั่งของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของสหรัฐ (OFAC) เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศของอินเดียกล่าวว่า การซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เป็นกิจการภายในใครก็ไม่อาจมาสั่งให้เปลี่ยนแปลง
ทั้งยังกล่าวถึงสถานการณ์พลังงานโลกว่า เฉพาะเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ยุโรปนำเข้าก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มขึ้นอีก 15% เมื่อเทียบกับสถิติของเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า จนถึงตอนนี้ ยุโรปยังคงเป็นผู้อุดหนุนพลังงานรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ท่ามกลางภาวะราคาพลังงานโลกยังคงลอยตัวอยู่ในระดับสูง จึงเป็นเรื่องปกติกับทุกประเทศ ในการแสวงหาเงื่อนไขและข้อตกลงดีที่สุดให้กับตัวเอง รัสเซียให้ส่วนลดราคาพลังงาน 25% เป็นราคามิตรภาพ ทำไมอินเดียจึงต้องปฏิเสธ
ดาลีป ซิงห์ รองที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ (Daleep Singh.US Deputy National Security Adviser :NSA) เยือนนิวเดลีเมื่อวันที่ 30 และ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา เขาได้พบกับรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของอินเดียพิยุช โกยัล( Piyush Goyal) และรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ ฮาร์ช วาฮัน ชริงลา(Harsh Vardhan Shringla) ระหว่างการเดินทาง 2 วัน
ซิงห์เรียกร้องอินเดียหยุดเพิ่มโควตานำเข้าพลังงานจากรัสเซียอีก และเตือนว่า ไม่ควรดำเนินการในทางใดที่อาจกลายเป็นการ “บ่อนทำลาย” เงินดอลลาร์สหรัฐ หลังมีกระแสข่าวหนาหูมากขึ้นว่า อินเดียและรัสเซียเตรียมใช้ระบบทำธุรกรรมรูปี-รูเบิล เพื่อซื้อขายพลังงาน
รัฐมนตรีอินเดียหลายคนออกมาตำหนิเรื่องความหน้าซื่อใจคดของตะวันตกเนื่องจากประเทศในยุโรปยังคงค้าขายกับรัสเซียต่อไป ขณะที่กดดันให้นิวเดลีหลีกเลี่ยงน้ำมันและก๊าซราคาดีงามของรัสเซีย
ชาวเน็ตชาวอินเดียจำนวนมากยังวิพากษ์วิจารณ์ซิงห์ในการ “พูดจาไม่ดี” กับอินเดีย ซึ่งสะท้อนความรู้สึกสาธารณะโดยรวมที่มีต่อคำกล่าวของทางการสหรัฐฯ
ทางการนิวเดลียังคงยืนยันปฏิเสธการคว่ำบาตร “ฝ่ายเดียว”ที่กำหนดโดยสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และพันธมิตรอื่นๆ ที่ต่อต้านรัสเซีย
ทั้งนี้ อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ซื้อน้ำมันจากรัสเซียไปแล้วอย่างน้อย 13 ล้านบาร์เรล ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ถือเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับสถิติตลอดทั้งปี 2564 ซึ่งอินเดียสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซียเกือบ 16 ล้านบาร์เรล ขณะที่มีรายงานว่า รัสเซียเสนอลดราคาน้ำมันให้อินเดียเป็นพิเศษ ที่สูงสุด 35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือประมาณ 1,170.40 บาท
