สงครามยังไม่จบแต่มีความคืบหน้า พอให้โลกและตลาดหุ้นได้คลายตึงเครียด ผลจากการเจรจารอบใหม่ในอิสตันบูล ตุรกีล่าสุด รัสเซียตกลงที่จะพบกับเคียฟครึ่งทาง โดยรัสเซียจะไม่รุกคืบหน้าทางทหารไม่ยึดกรุงเคียฟ ขณะที่ยูเครนยอมเป็นกลางแต่ขอเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ไม่ยอมถอยเรื่องไครเมีย ดอนบาส
ก่อนหน้านี้ มอสโกยืนยันว่าการประชุมระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียและนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อข้อตกลงดังกล่าวสิ้นสุดลง และมีการลงนามร่วมของรมว.ต่างประเทศทั้งสองฝ่ายที่ร่วมเจรจา ป้องกันเบี้ยวสัญญา ขณะที่รมว.ต่างประเทศลาฟรอฟบอกว่า รัสเซียรู้ทันและฟันธงว่าสหรัฐและตะวันตกไม่ต้องการสันติภาพ แค่ยื้อเวลา เพราะระดมทั้งเงินและอาวุธใส่มือยูเครนไม่เลิก ขณะเดียวกันก็ระดมพันธิตรในทุกภูมิภาคโลกโจมตีทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย หรืออีกนัยหนึ่งคือสหรัฐและตะวันตกเปิดศึกเต็มรูปแบบกับรัสเซียนั่นเอง
วันที่ 30 มี.ค.2565 สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า วลาดิมีร์ เมดินสกี้ ผู้แทนฝ่ายรัสเซีย(Vladimir Medinsky) เปิดเผยว่าการเจรจาในตุรกีเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ” และกล่าวว่าคณะผู้แทนของเขาได้รับการตอบสนองในข้อเรียกร้องที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งรวมถึงคำมั่นของยูเครนที่จะยังคงเป็นประเทศที่เป็นกลางและจะไม่รับอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ ยังความภาคภูมิใจให้แก่ตุรกีผู้ซึ่งอาสาเป็นผู้จัดงานเจรจาครั้งนี้ ว่ามีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม ผลการเจรจามีข้อสรุปเบื้องต้นดังนี้คือ
1.แนวรุกของรัสเซียลดขนาดลง กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศ ผลกระทบในทางปฏิบัติในทันทีของการเจรจา จะเป็นการลดระดับกิจกรรมทางทหารในบางส่วนของยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้คำมั่นที่จะลดบุกทางทหารใกล้กับเมืองเชอร์นิกอฟและเคียฟ
2.การรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครนเหมือนนาโต้
เดวิด อราคาเมีย(David Arakhamia)ผู้แทนยูเครนกล่าวว่าเคียฟได้แสวงหาการรับประกันความปลอดภัยที่คล้ายกับที่ระบุไว้ในมาตรา 5 ของสนธิสัญญานาโต้โดย เสนอให้รัสเซีย สหราชอาณาจักร จีน สหรัฐอเมริกา ตุรกี ฝรั่งเศส แคนาดา อิตาลี โปแลนด์ และอิสราเอลเป็นผู้ให้การรับประกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ยูเครนได้ให้ข้อตกลงเบื้องต้นแล้ว เขากล่าวว่ายูเครนจะไม่มีกลุ่มทหารหัวรุนแรงสุดโต่งและไม่มีอาวุธนิวเคลียร์
3.เมดินสกี้กล่าวถึงข้อเสนอ โดยยูเครนให้คำมั่นที่จะไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารใดๆ จะไม่เป็นเจ้าภาพฐานทัพทหารต่างประเทศหรือกองกำลังต่างชาติ แม้แต่การฝึกทหารก็ยังต้องได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจากผู้ค้ำประกันตามข้อเสนอ เคียฟยังให้คำมั่นว่าจะไม่แสวงหาอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ แต่ในทางกลับกัน ยูเครนต้องการให้รัสเซียยอมให้ยูเครนเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ประเด็นแหลมไครเมีย และดอนบาสไม่ตกลง
4.ยูเครนไม่ยอมรับเงื่อนไขเรื่องแหลมไครเมีย เคียฟได้เสนอให้มีการเลื่อนการยอมรับไปอีก 15 ปีเกี่ยวกับสถานะของแหลมไครเมีย ซึ่งในระหว่างนั้นจะมีการจัดเจรจาและทั้งสองฝ่ายจะสัญญาว่าจะไม่ใช้กำลังทหารในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว สิ่งนี้ไม่ตรงกับจุดยืนของรัสเซียเพราะไครเมียผ่านการทำประชามติจากประชาชนและเป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตรัสเซียแล้ว
5.ข้อขัดแย้งเรื่องดินแดน ผู้แทนรัสเซียกล่าวว่า มอสโกว์ยอมรับอย่างเป็นทางการว่าสาธารณรัฐโดเนตสก์และลูฮันสก์เป็นรัฐอธิปไตยแล้ว และไม่เชื่อว่ายูเครนจะปฏิบัติตามคำสัญญา เพราะที่ผ่านมา 8 ปีฉีกสัญญาสันติภาพมินส์มาแล้ว
อาราคาเมียแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเคียฟจะยืนยันอธิปไตยเหนือดินแดนทั้งหมดในยูเครนและกล่าวว่าจะไม่มีการประนีประนอมในประเด็นนี้
เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี(Turkish Foreign Minister Mevlut Cavusoglu) กล่าวว่าเขาหวังว่าผลการเจรจาจะนำไปสู่การหยุดยิงและการแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างยั่งยืนในเร็ววันนี้
ดูแล้วคงยากที่จะได้บทสรุป แต่แนวโน้มดูดีมีความคืบหน้า ทำให้ตลาดหุ้นดีใจเด้งรับ คาดว่าจะได้เห็นสัญญาณสงบศึกโดยเร็ว แต่นี้เป็นความจริงหรือภาพลวงตา เพราะสหรัฐและพันธมิตรยังคงอัดฉีดเงินและอาวุธเข้าสู่ยูเครนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สื่อตะวันตกเผยแพร่ข่าวว่ารัสเซียยอมถอยแล้ว ยูเครนชนะ สหรัฐฯได้เปรียบในเกมส์นี้
ข้อเท็จจริงในพื้นที่คือ รัสเซียควบคุมพื้นที่สู้รบส่วนใหญ่ได้หมดแล้ว โดยเฉพาะในดอนบาส คือบรรลุเป้าหมายในการปลดปล่อยดอนบาส ข้อตกลงล่าสุดไม่ได้หมายถึงการหยุดยิง แต่ไม่รุกคืบยึดเมืองหลวงเคียฟเปิดทางถอยให้ยูเครน
ขณะที่ผู้หนุนหลังรัฐบาลเซเลนสกี้อย่างสหรัฐและนาโต้ ยังคงมีท่าทีแข็งกร้าวต่อรัสเซียหนักขึ้น จัดเต็มให้ปธน.เซเลนสกี้ได้ออกอากาศกล่อมประเทศต่างๆทั้งในยุโรปและเอเชีย สร้างภาพรัสเซียเลวร้ายเป็นภัยต่อโลกไม่หยุดหย่อนและเรียกร้องให้ประเทศต่างๆช่วยเหลือยูเครนรบรัสเซียต่อไป ท่าทีแบบนี้หรือต้องการหยุดสงคราม???
