พปชร.ส่งสัญญาณ จ่อปรับโครงสร้างผู้บริหาร เลื่อนประชุมใหญ่เร็วขึ้น วงในเผย ส.ส. ยังเชื่อมั่นในตัว “บิ๊กป้อม”!

1294

จากกรณีที่นายสนธิญา สวัสดี พร้อมด้วยนายสมัย รามัญอุดม ซึ่งอ้างตัวเป็นสมาชิกพรรคประชารัฐ (พปชร.) และเป็นหนึ่งในผู้ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้พิจารณาว่ามติขับ 21 ส.ส.พรรค พปชร.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ชะลอการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องดังกล่าว เนื่องจากได้ยื่นคำร้องเพิ่มเติมอีก 11 ประเด็น จึงต้องการให้ กกต.พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ

 

ขณะที่ท่าทีในพรรคพลังประชารัฐ ก็เริ่มส่งสัญญาณเลื่อนประชุมใหญ่ให้เร็วขึ้นจากเดิม ทันทีที่กกต.เผยผลขั้นแรก เรื่องมติขับ 21 ส.ส.พรรค พปชร.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ว่าครั้งก่อนจะมีการประชุม และมีกระแสกดดันถึงพลเอกประวิตร หัวหน้าพรรค ว่าขอให้มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหัวหน้า ให้พลเอกประยุทธ์ ขึ้นแทนนั้น ในที่ประชุมไม่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้แต่อย่างใด มีเพียงการส่งสัญญาณจากพลเอกประวิตร ว่า จะไม่ขอถอย จะสู้ต่อ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของพรรคกลับมา และยังบอกอีกว่า อยู่กับพลเอกประยุทธ์ มา 15 ปี คงไม่มีทางทิ้งกัน

ล่าสุดมีรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ​(พปชร.) ระบุว่า สำหรับความเคลื่อนไหวในพรรค หลังขับ​ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และส.ส.ในกลุ่ม 21คน จากพรรค ทางแกนนำพรรคพปชร.บางส่วน ได้หารือถึงแนวทางการทำงาน รวมถึงการปรับโครงสร้างผู้บริหาร ที่จะขับเคลื่อนพรรคในแต่ละด้านให้เกิดความชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ส.ส.ที่ยังอยู่ในพรรคไม่รู้สึกหวั่นไหวและกังวลกับแนวทางการทำงานของผู้ใหญ่แต่ละกลุ่มว่าจะมีทิศทางอย่างไร และยังแสดงให้ส.ส.เห็นว่าการบริหารของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.ยังเป็นเอกภาพ สามารถนำพรรคเดินหน้าต่อไปได้

การพูดคุยเบื้องต้น อาจขยับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ที่มีวาระรายงานผลการดำเนินงานในรอบปี รวมถึงวาระอื่น แจ้งให้สมาชิกรับทราบจากเดิมกำหนดจัดประชุมในเดือนเม.ย.นี้ มาเป็นช่วงเดือนมี.ค.หลังปิดสมัยประชุมสภาฯ ส่วนวัน เวลา สถานที่ อยู่ระหว่างการพิจารณา

อย่างไรก็ตามทางด้านพลเอกประวิตร ได้ออกมาโต้ผ่านสื่อในประเด็นที่จะมีส.ส.ออกจากพรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า จะมีคนย้ายเข้ามา 50-60 คน แต่ไม่ขอเปิดชื่อ มั่นใจรัฐบาลอยู่ยาวจนครบวาระ รวมทั้งในช่วงเดือนนี้พลเอกประวิตร ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรดาคอการเมืองจับตาว่า นี่อาจจะเป็นสัญญาณเรียกความเชื่อมั่นของพรรคกลับมาอีกครั้ง