สหรัฐระส่ำ!!แก๊งขโมยของอาละวาดหนัก ยกพวกชิงทรัพย์ทั่วซานฟรานซ์ฯ ตำรวจเกียร์ว่าง??

1639

ที่สหรัฐอเมริกา กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไปแล้ว คืนสยองขวัญของคนอเมริกันไม่ใช่เพิ่งเกิดครั้งแรก แต่ครั้งนี้สาหัสเพราะแก๊งปล้นร้านของชำยกระดับ พาพวก 80 คนปล้นห้างหรูและหลายจุดในซานฟรานซิสโก ยิ่งกว่าในภาพยนต์ระทึกขวัญ  ซานฟรานซิสโกกำลังเผชิญกับอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ หลังจากกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19ระลอกใหม่ มีเหตุชิงทรัพย์และลักขโมยเพิ่มขึ้นจากหนึ่งปีก่อนหน้านี้เกือบ 88% และอาชญากรรมโดยรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 52% นักเคลื่อนไหวชี้ว่า เพราะกฎหมายเปิดช่อง

วันที่ 22 พ.ย.2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อคืนวันเสาร์ 20พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุแก๊งขโมยของหลายสิบคนยกพวกปล้นสะดมห้างสรรพสินค้านอร์ดสตรอม สาขาหนึ่งใกล้ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ตำรวจเรียกว่าเป็นเหตุการณ์ “ทุบกระจกแล้วกวาดข้าวของวิ่งหนี” ผู้ต้องสงสัย 3 คนถูกจับในภายหลัง

ร้อยตำรวจโท ไรอัน ฮิบบ์ส จากกรมตำรวจวอลนัตครีก เปิดเผยกับสื่อว่ามีผู้ต้องสงสัยราว 80 คนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมซึ่งเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้านอร์ดสตรอม ในบรอดเวย์พลาซ่า ในเมืองวอลนัตครีก ทางตะวันออกของซานฟรานซิสโก และพวกคนร้ายใช้ยานพาหนะอย่างน้อย10 คันในการหลบหนี

“ในรถจำนวนหนึ่งกำลังขับหนี เราสามารถสกัดพวกเขาได้คันหนึ่ง” ฮิบบ์สกล่าว และบอกว่าไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมเผยเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำคนที่ถูกจับกุมตัวซึ่งเป็นวัยรุ่น เพื่อระบุตัวตนผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ

ผู้จัดการร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงเปิดเผยกับสำนักข่าวท้องถิ่น ว่าพวกคนร้ายสวมหน้ากากและถืออุปกรณ์บางอย่างซึ่งน่าจะเป็นชะแลง “มันคือกลุ่มม็อบ ตำรวจพุ่งเข้ามา มันราวกับฉากในภาพยนตร์ มันบ้ามากๆ มันเป็นฉากที่น่ากลัวมากในช่วงเวลาหนึ่ง” ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ได้ประมาณการมูลค่าความเสียหายในสินค้าต่างๆนานาที่ถูกขโมยไป

ร้านค้าจำนวนมาก รวมทั้งหลุยส์วิตอง (Louis Vuitton) และบลูมมิ่งเดลส์  (Bloomingdale’s) ถูกโจมตีในคืนวันศุกร์วันเดียวกัน อันเป็นส่วนหนึ่งของการปล้นสะดมครั้งใหญ่ที่โจมตีธุรกิจต่างๆ ในยูเนียนสแคว์ (​​Union Square) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย

นอกจากนี้หลังเหตุการณ์ตำรวจเปิดเผยว่าจับกุมผู้ต้องสงสัยอีก 8 คนล้วนเป็นวัยรุ่น ยังสามารถยึดยานพาหนะได้ 2 คันและอาวุธปืน 2 กระบอก

ซานฟรานซิโกไม่ใช่เมืองเดียวของสหรัฐฯที่ต้องเผชิญกับแก๊งอาชญากรรมฉวยแล้วหนี เมื่อช่วงบ่ายวันพุธ(17พ.ย.) มีรายงานคนร้ายหลายคนบุกเข้าไปในร้านหลุยส์ วิตตอง ในห้างสรรพสินค้าแห่งนึ่งในโอ๊คบรูค รัฐอิลลินอยส์ ฉวยสินค้าไปมูลค่ากว่า 120,000 ดอลลาร์(ราว 3.9 ล้านบาท) ตามรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่น

จากการเปิดเผยของกรมตำรวจโอ๊คบรูค พบเห็นผู้ต้องสงสัย 14 คนกำลังหยิบฉวยสินค้าไปจากชั้นวาง  เจมส์ ครูเกอร์ ผู้บัญชาการตำรวจโอ๊คบรูคกล่าวว่า ในภาพจากกล้องวงจรปิดที่เปิด “พอพวกเขาเข้ามา พวกเขาดึงถุงขยะออกมาจากชุดและเริ่มเอาสินค้าใส่เข้าไปในถุงจนเต็ม” จากนั้นผู้ต้องสงสัยใช้ยานพาหนะ 3 คันหลบหนี แต่ไม่นานตำรวจพบรถต้องสงสัยจอดทิ้งไว้ข้างทาง 1 คัน

สำหรับเมืองซานฟรานซิสโกเกิดกระแสเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านกฎหมายและ การทำงานของตำรวจหลังคืนการปล้น ‘สยดสยอง’ ทั้งนายกเทศมนตรีและกรมตำรวจเห็นด้วยและรับปากจะต้องผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ในการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ลอนดอน บรีด นายกเทศมนตรี(London Breed) ได้ให้คำมั่นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ ในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเป็นมาตรการป้องกันการโจรกรรมจำนวนมากในอนาคต

การปล้นสะดมบางส่วนถูกจับภาพโดยกล้องวงจรปิด โดยมีตำรวจไม่กี่คนในพื้นที่ และโจรหลายคนสามารถเดินผ่านตำรวจโดยไม่มีการต่อต้าน

การโจรกรรมได้กลายเป็นเทรนด์ในซานฟรานซิสโก ส่งผลให้บริษัทอย่างวอลล์กรีนส์(Walgreens ) ปิดสถานที่หลายแห่งและร้านค้าปลีกอื่นๆต้องจำกัดเวลาทำการ 

นักเคลื่อนไหวระบุว่า กฎหมายของเมืองที่การขโมยของที่มีมูลค่าน้อยกว่า 950 ดอลลาร์ ไม่ใช่ความผิดทางอาญา เป็นปัจจัยสำคัญในการขโมยที่เพิ่มขึ้นและส่งผลกระทบต่อธุรกิจ และการทำงานของตำรวจ เพราะไม่มีใครสนใจขัดขวางในระหว่างเกิดเหตุเนื่องจากอาจทั้งผิดกฎหมายถูกฟ้องกลับ หรืออาจถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต  เรื่องนี้เป็นประเด็นถกเถียงกันระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในพื้นที่มากว่าปียังไม่มีข้อสรุป