“ธนาธร” เดือดจัด เถียงสนั่น “ไม่ได้ลอกผลงาน” โยงโดนปั่นกระแสใส่ร้าย!

1695

ทนไม่ไหวต้องออกตัว!? “ธนาธร” โดนจวกยับ ลอกผลงาน-ภาพเลียนแบบ ต้องออกมาเคลื่อนไหวเถียงลั่น ไม่ใช่ การลอกผลงาน!?

กำลังเป็นประเด็นที่ถกเถียงพูดถึงอย่างมากในเวลานี้ นั่นก็คือภาพวาดของ นายธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ ที่มีชื่อภาพว่า “เบญจา” ซึ่งมีความเหมือนกับ ภาพวาดของ Damian Lechosz โดยทางด้านของ นายธนาธร ได้นำไปหารายได้ในการเปิดประมูลที่ NFT1 และมีกระเป๋าปริศนาเข้าร่วมประมูล 3 ใบ ผู้ชนะสามารถซื้อไปได้ในราคา 3.03 ล้านบาท

แต่ก็เกิดการตั้งคำถามจากประชาชนเป็นจำนวนมาก มองว่า ภาพดังกล่าวที่ทางด้านของ นายธนาธร นำไปหารายได้นั้น เป็นภาพที่ COPY หรือลอกเลียนแบบจนเกินไป ล่าสุดทางด้านของ นายธนาธร จึงได้รีบออกมาเคลื่อนไหวในทันทีผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยมีรายละเอียดว่า

[ ผลงานศิลปะของผมที่ถูกประมูลใน NFT ไม่ใช่การ #ลอกผลงาน ]
ผมประหลาดใจอย่างมากที่จู่ ๆ ก็เกิดการปั่นกระแสกันอย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย ว่าผลงาน When She Opens the Door และ Silence ของผม ซึ่งถูกประมูลในตลาด NFT เป็นการลอกเลียนแบบผลงานศิลปินต่างประเทศ มีการตำหนิติเตียนผมอย่างรุนแรงว่าเป็นผู้ไม่เคารพสิทธิของศิลปิน ขโมยความคิดสร้างสรรค์ของคนอื่นมาเป็นผลงานของตนเอง ซึ่งเป็นข้อหาที่ร้ายแรงและไม่เป็นธรรมต่อผมอย่างมาก

ผมเป็นนักวาดภาพมือสมัครเล่น วิธีการวาดภาพของผมก็เหมือนกับคนเรียนวาดเขียนส่วนใหญ่ในโลก นั่นคือการฝึกวาดจากงานศิลปะชั้นครู หรืองานที่ตัวเองชื่นชอบ ภาพทุกภาพที่ผมวาด ไม่ได้คิดว่าจะเปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นงานอดิเรกส่วนตัวของผม แต่เมื่อผมตัดสินใจนำภาพมาประมูล เพื่อนำรายได้ไปบริจาคให้กับองค์กรต่าง ๆ ผมก็ได้ระบุชัดว่าภาพแต่ละชิ้น ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานชิ้นใด ทำอย่างเปิดเผย โปร่งใส ตรงไปตรงมาที่สุด จนไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าเกิดการปั่นกระแสว่าผมลอกผลงานคนอื่นได้อย่างไร

ภาพ When She Opens the Door ผมระบุทั้งในโพสต์เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ว่าได้รับแรงบันดาลใจจากภาพของ Damian Lechoszest ผมยังเขียนอีเมลไปเล่าให้เขาฟังถึงเรื่องราวการต่อสู้ของเบนจา และแรงบันดาลใจของผมในการการวาดภาพนี้เพื่อนำเงินที่ได้จากการประมูลไปมอบให้กับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย

ส่วนภาพ Silence ผมได้ระบุไว้ชัดเจนแล้วเช่นกันว่าได้รับแรงบันดาลใจจาก @colorbyfeliks ซึ่งเจ้าตัวระบุไว้ว่าใครนำภาพของเขาไปสร้างสรรค์ต่อก็แค่ให้เครดิตชื่อเขาไว้ก็เพียงพอ ถือว่าเป็นธรรมชาติของวงการ digital art ที่จะมีการทำซ้ำ เผยแพร่ ส่งต่อผลงาน โดยเจ้าของผลงานไม่ได้หวงห้าม เพียงแต่ต้องระบุว่าภาพนั้นต้นฉบับเป็นของใคร

เป็นอีกครั้งที่ผมต้องออกมาชี้แจงในประเด็นข้อกล่าวหาที่เป็น “เรื่องไม่เป็นเรื่อง” อันเกิดจากกระบวนการทำลายชื่อเสียงของผมอย่างเป็นระบบผ่านปฏิบัติการ IO และสื่อบางสำนัก ผมขอประกาศไว้ตรงนี้ว่าสิ่งที่พวกคุณพยายามทำจะไม่สำเร็จ แม้ผมจะต้องเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ไปบ้าง แต่มันจะไม่ทำให้ผมท้อถอยหรือหยุดการทำงานการเมือง และผมเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณพอที่จะแยกแยะข้อเท็จจริงออกจากข่าวลวง การปลุกปั่นกระแส และการใส่ร้ายสร้างความเกลียดชัง