สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ที่กลุ่มเพจเฟซบุ๊ก “เชียร์ลุง” ได้จัดกิจกรรม “เดินรณรงค์ล่าล้านชื่อ…ขับไล่ amnesty ออกไป” โดยมีการรวมตัวที่ หน้าเซ็นทรัลสีลมคอมเพล็กซ์ จากนั้นจะมีกิจกรรมเดินรณรงค์ เชิดสิงโต โห่ไล่ และล่ารายชื่อ 1,000,000 รายชื่อ ขับไล่แอมเนสตี้ออกจากประเทศไทยนั้น และในวันที่ 18 ม.ค. 2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่า สามารถล่ารายชื่อ ได้ครบ 1 ล้าน รายชื่อแล้ว
ทั้งนี้ทางด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ยังแสดงความเห็นด้วยกับ “นิด้าโพล” ที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง การควบคุม NGO โดยประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.36 เห็นด้วยที่หากออกกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยแหล่งที่มาของเงินทุน และร้อยละ 58.14 เห็นว่าที่รับเงินจากต่างประเทศต้องเปิดเผยจำนวนเงินและวัตถุประสงค์การใช้เงิน ขณะเดียวกันประชาชนร้อยละ 34.70 ยังอยากให้การออกกฎหมาย NGO ห้ามทำกิจกรรมที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม NGO ที่ช่วยเหลือประเทศชาติ และประชาชนที่แท้จริงก็ยังมีอยู่ และ NGO ที่มาจากต่างประเทศเข้ามาสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่างๆ เพื่อสร้างความเดือดร้อนในประเทศก็มี ส่วนตัวจึงมองว่าการออกกฎหมายควบคุมถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งหาก NGO ไม่ได้ทำผิดอะไรก็ไม่ต้องกลัวกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น
“ผมจึงเห็นว่า NGO ที่เคลื่อนไหวร่วมกับม็อบสามกีบ และทำลายความมั่นคงคิดล้มล้างสถาบันเหล่านี้คือกลุ่มอันตรายที่สุด ที่คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่ปกป้องประเทศชาติและสถาบันเบื้องสูงจะไม่มีวันยอมให้องค์กรเหล่านี้มีที่ยืนเพื่อเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายป่วนบ้านป่วนเมืองเด็ดขาด ประชาชนจึงเห็นด้วยกับรัฐบาลที่จะต้องมีกฎหมายมาควบคุมกับ NGO เถื่อน ๆ ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย
และในสิ้นเดือนมกราคมนี้ผมและพี่น้องประชาชนที่ได้ลงชื่อขับไล่ NGO แอมเนสตี้ ได้ครบ 1 ล้านรายชื่อเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อให้ถูกต้องชัดเจน จากนั้นผมและคณะจะนำรายชื่อ 1 ล้านรายชื่อไปยื่นต่อหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบให้ดำเนินการตรวจสอบแอมเนสตี้ อันดับแรกจะไปยื่นต่อกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นนายทะเบียน เพื่อให้เร่งรีบเพิกถอนใบอนุญาตให้องค์กรนี้พ้นสภาพ เพราะทำผิดหลายประการไม่ได้ปฎิบัติตามเงื่อนไขระเบียบในการยื่นขอนุญาตจดทะเบียนเอาไว้ เมื่อกรมการปกครอง เพิกถอนใบทะเบียนแล้วเท่ากับว่า แอมเนสตี้เป็นองค์กรเถื่อน ใครเคลื่อนไหว อ้างชื่อองค์กรเถื่อนก็จะต้องรับผิดชอบตัวเองและตนจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่ยอมให้ใครอ้างองค์กรเลว ๆ ที่ทำลายความมั่นคง ทำลายสถาบันได้มีที่ยืนบนผืนแผ่นไทยอย่างเด็ดขาด