ดร.อานนท์ งัดหลักฐาน ฟาดกลับ “เจ๊หน่อย” หลังส่งทนายฟ้องปมฉีดวัคซีน! เผยคำพูดทำคุณหญิงปรี๊ด!

1594

ดร.อานนท์ งัดหลักฐาน ฟาดกลับ “เจ๊หน่อย” หลังส่งทนายฟ้องปมฉีดวัคซีน! เผยคำพูดทำคุณหญิงปรี๊ด!

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (13 มกราคม 2565) นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย นายประพันธ์ เย็นสุข ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมนำพยานหลักฐานเพิ่มเติมมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีการให้สัมภาษณ์ของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ที่กองปราบปราม ซึ่งเป็นการหมิ่นประมาท คุณหญิงสุดารัตน์ และได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี กับนายเสกสกล ไว้ในก่อนหน้า วันนี้ทางทนายความจึงมาติดตามความคืบหน้าและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดดำเนินคดี

นอกจากนี้ ยังขอให้ดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Arnond Sakworawich ของ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่ได้โพสต์ภาพคุณหญิงสุดารัตน์ และเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ระบุชื่ออ้างว่าเป็นของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พร้อมแคปชั่น ที่รุนแรงและบิดเบือน มีถ้อยคำหมิ่นประมาท คุณหญิงสุดารัตน์ โดยตรง ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาและปกป้องสิทธิของคุณหญิงสุดารัตน์ จึงได้มอบหมายให้ทีมทนายความเข้าแจ้งความในวันนี้ เพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาป่าวประกาศ ตามประมวลกฎหมายอาญา

นายรัฐภูมิ เปิดเผยว่าคนเป็นครูบาอาจารย์ ควรรู้จริง และที่สำคัญควรมีจริยธรรม ที่พอจะเป็นเยี่ยงอย่างของลูกศิษย์บ้าง ควรทำตัวไม่ให้สถาบันเสื่อมเสียไปกับความไม่มีภูมิของตัวเอง ที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เปิดเผยกับทุกสื่อที่สัมภาษณ์ว่าเป็นผู้ที่ฉีด ซิโนแวค 2 เข็ม เพราะรัฐบาลไม่มีวัคซีนอะไรให้เลือก คุณหญิงสุดารัตน์ ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่ไม่มีทางเลือก รัฐบาลมีวัคซีนอะไรก็ต้องฉีด โดยเฉพาะคุณหญิงสุดารัตน์ ต้องลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านทุกวัน จึงอยู่ในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง

สิ่งที่คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ทำเป็นการเรียกร้องสิทธิ แทนประชาชนคนไทย ซึ่งคนไทยควรได้เลือกวัคซีนที่หลากหลาย รวมทั้ง mRNA เช่นเดียวกับประเทศ อื่นๆ เพื่อให้เหมาะสมกับเงื่อนไข สุขภาพของแต่ละคน ที่สำคัญที่สุด เมื่อเกิดการระบาดของเชื้อ”เดลต้า” วัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่จะป้องกันหรือลดความรุนแรงของอาการผู้ป่วย ของผู้ติดเชื้อได้คือวัคซีน mRNA ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีงานวิจัยตีพิมพ์ออกไปทั่วโลกแต่ในช่วงเวลาดังกล่าวรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไม่ยอมจัดซื้อวัคซีน mRNA ยังคงต้องซื้อวัคซีนซิโนแวคต่อไป คุณหญิงสุดารัตน์จึงออกมาทวงถามให้กับประชาชน เพราะรัฐบาลยัดเยียดวัคซีนเชื้อตาย ที่ไม่สามารถต่อต้านกับเชื้อเดลต้าได้ ดังนั้นหากนายอานนท์ ว่างจากการสอนมากก็ควรไปศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนจะออกมาพูด

ต่อมาทาง ดร.อานนท์ ก็ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า หน่อยทวิตเตอร์ด้อยค่าซิโนแวค บอกว่าเป็นวัคซีนไม่ดี ทวิตเตอร์ลงวันที่ 12 กรกฎาคม. แต่หน่อยได้ฉีด Sinovac ไปแล้วสองเข็ม ที่โรงพยาบาลบางกรวย ตั้งแต่วันที่ 18 เดือนพค. กับวันที่ 8 เดือนมิย คือหน่อยได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปก่อนประชาชนครบสองเข็ม แล้วก็ยังไม่ป่วยติดโควิด ไม่ตาย ไม่เป็นอะไร ออกมาทวิตเตอร์ด้อยค่าวัคซีนซิโนแวคได้ขนา่ดนี้ ยังย้อนแย้งปากเก่ง ปากดี ถ้าของไม่ดีจะเอาไปฉีดใส่ตัวเองทำไมหน่อย

หน่อยเคยเป็นอดีต รมว สาธารณสุข น่าจะมีสามัญสำนึกเรื่องการแพทย์บ้าง ไม่ใช่พูดแต่หวังผลทางการเมือง ทำให้ประชาชนหวั่นไหวแล้วไม่ไปฉีดวัคซีน ทำแบบนี้ทำให้ประชาชนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเสียชีวิตไปมากมายหรือไม่?
หน่อยไม่ควรโกหกประชาชนด้วยการออกไปด่าด้อยค่าวัคซีนเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ตัวเองรีบไปฉีดวัคซีนก่อนประชาชน โดยที่มีลักษณะอาการของนักการเมืองที่สนใจแต่ประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าชีวิตประชาชนแบบนี้นะหน่อย แบบนี้เป็นนักการเมืองที่ใช้ไม่ได้เลยนะหน่อยนะ
หน่อยต้องไม่โกหกประชาชนด้วยการไม่บอกความจริงที่ตัวเองได้ไปฉีดวัคซีนก่อนประชาชนแล้วกลับมาด้อยค่าวัคซีนที่จะฉีดให้ประชาชนแบบนี้ แล้วบอกว่าซิโนแวคทั้งแพงทั้งไม่ดี แล้วหน่อยฉีดไปทำไม ของไม่ดี เอาแหย่เอาเสียบใส่ตัวเองทำไมหน่อย แล้วนี่หน่อยได้ไปฉีดก่อนประชาชนตั้งแต่เดือนห้านี่เพราะเหตุผลอะไร ในเมื่อหน่อยก็ไม่ได้เป็น สส ไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร ผมแค่สงสัยใคร่ขอถาม หน่อยน่าจะชอบกินสตรอว์เบอรี่มาก เดี๋ยวจะซื้อไปฝากนะจ๊ะ ฟ้องก็ฟ้องมาเลยจ๊ะ ทุกอย่างเป็นความจริง

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่า “ใบรับรองการฉีดวัคซีนเป็นเอกสารที่รัฐออกให้เพื่อเอาไว้เปิดเผยยืนยันการฉีดวัคซีน หลายคนถึงขนาดโพสต์ภาพโชว์การฉีดวัคซีน การเปิดเผยว่าใครฉีดวัคซีนจึงไม่ทำให้เกิดความเสียหาย ไม่เป็นความผิดฐานเปิดเผยความลับตามมาตรา 322 แต่เสียมารยาทหรือไม่ก็ว่ากันเองครับ”

“สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 322 ระบุว่า “ผู้ใดเปิดผนึก หรือเอาจดหมายโทรเลข หรือเอกสารใดๆ ซึ่งปิดผนึกของผู้อื่นไป เพื่อล่วงรู้ข้อความก็ดี เพื่อนำข้อความในจดหมาย โทรเลข หรือเอกสารเช่นว่านั้นออกเปิดเผยก็ดี ถ้าการกระทำนั้นน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”