“อนุทิน” โร่แจงปม “ธนาธร” ฉีดวัคซีน VIP! ย้อนปะทะเดือดกลางคลับเฮ้าส์ เจอซัดแรง โกหกประชาชน!
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (12 มกราคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาประกาศว่า จะฟ้องร้องเอาผิดหน่วยงานรัฐ หรือผู้ที่เปิดเผยข้อมูลการฉีดวัคซีนของนายธนาธรนั้น ยืนยันว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่ฉีดวัคซีนไม่ได้รั่ว และจริงๆ ข้อมูลดังกล่าวก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความลับสุดยอดอะไร โหลดแอปพลิเคชันหมอพร้อม และกรอกเลข 13 หลักเข้าไป ก็พบข้อมูลตรงนี้ ก็ไม่ควรไปจี้ว่านายธนาธรเป็น VIP หรือพิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งมองว่า นายธนาธร ก็มารับวัคซีนเข็มแรกตามกำหนด ตามปกติตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 64 และทั่วไปมารับตั้งแต่พฤษภาคมด้วยซ้ำ หากจะพูดกันให้เกิดความยุติธรรม ขออย่านำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น
นายอนุทิน ย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุข ในยุคของตน มีสโลแกนรักษาทุกที่ VIP ทุกคนประชาชนคนไทยทุกคนสำหรับกระทรวงสาธารณสุข คือ VIP การฉีดวัคซีนให้กับทุกคนควรเป็นเรื่องที่น่าดีใจ เพราะเมื่อฉีดแล้วก็จะลดความเสี่ยงเรื่องการติดเชื้อและเผยแพร่เชื้อรวมถึงลดการป่วยเสียชีวิต อย่าเอาประเด็นนี้มาเป็นเรื่องสำคัญ และตอนนี้ขอให้ทุกคนมาฉีดเข็ม 3 ซึ่ง นายธนาธร ก็เพิ่งติดโควิด ถือว่ามีภูมิธรรมชาติแล้ว ค่อยมาฉีดเข็มที่ 4 ตามหลังคนอื่นได้
อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่า นายอนุทิน ได้ออกมาปกป้องนายธนาธร เกี่ยวกับปมวัคซีน VIP ซึ่งทางทีมข่าวเดอะทรูธ จะพาย้อนไปเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2564 ซึ่งนายอนุทินและนายธนาธร เคยปะทะกันในคลับเฮ้าท์ ถึงกรณีวัคซีนมาแล้ว
โดยช่วงคืนวันที่ 12 มี.ค. 64 ในคลับเฮ้าส์ มีการเปิดห้อง “วัคซีนไทย ควรไปต่อหรือพอแค่นี้” ซึ่งมีการคุยในประเด็นวัคซีน โดยนายอนุทิน ในฐานะรมว.สาธารณสุข ได้เข้ามาร่วมพูดคุย จากนั้นนายธนาธร ได้เข้ามายกมือในห้อง เพื่อร่วมตอบคำถามด้วย
โดยนายธนาธร ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า พอดีได้เข้ามานั่งฟัง นายอนุทิน โกหกประชาชนแบบนี้ไม่ได้ การบอกว่าเอสตราเซเนกา มีความพร้อมจะส่งวัคซีนได้ทันตามกำหนด ประโยคนี้มีปัญหามากๆ เพราะเมื่อปลายเดือนพ.ย.63 แผนงานที่หน่วยงานราชการเสนอต่อกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ประเทศไทยจะฉีดวัคซีนตั้งแต่ปี 2021-2023 ปีละ 10 ล้านโดส ดังนั้น หมายความว่า ตรงต่อเวลาคือ 2023 แล้วคนจะต้องตายกี่คน
จากนั้น นายอนุทิน ได้พูดสวนขึ้นว่า “จะเป็นไปได้อย่างไรที่รองนายกรัฐมนตรีโกหกประชาชน ผมไม่มีทางโกหกประชาชน ผมต้องทำงาน แล้วทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนไป วันนี้ผมบอกได้เลยว่าทั้ง 60 ล้านโดสจะถูกฉีดภายในสิ้นปีนี้ โดยกรมควบคุมโรคได้ไปศึกษาทุกอย่างหมดแล้ว ยืนยันว่าในแต่ละเดือนสามารถฉีดวัคซีน 5 ถึง 10 ล้านโดส ฉะนั้นเราสั่ง 60 ล้านโดส เริ่มฉีดในเดือนมิถุนายน เป็นต้นไป ก็จะจบในสิ้นปีนี้ และหากเราจะสั่งมาให้ประชาชนในปีหน้าก็เป็นเรื่องของปีหน้า
ฉะนั้นสิ่งที่คุณธนาธรพูดว่า เราเสนอไปว่าจะฉีดจนถึงสิ้นปี 2023 อันนั้นอาจเป็นแผนแรก แต่ตอนนี้เราเข้าถึงแล้ว เรารู้แล้วว่าเขาจะจัดส่งมาตามสัญญาที่เขามีกับเรา เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป เราก็ไปปรับแผนของเราให้ครบ 62 ล้านโดสภายในสิ้นปี ตามที่เราได้สั่งใน 2 ล็อตแรกก่อน”
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวอีกว่า “หลังจากนั้นเราก็ปรับแผนฉีดต่อไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นวัคซีนยี่ห้ออื่นที่มีประสิทธิภาพประสิทธิผลที่ดีกว่านี้ ซึ่งเป็นไปตามสิ่งที่นายธนาธรต้องการคือ ไม่ต้องการให้แทงม้าตัวเดียว ตนรับฟังทุกความคิดเห็นที่เข้ามาทางสาธารณะ ไม่ใช่ว่าอยู่คนละฟากกัน เป็นรัฐบาล ฝ่ายค้านแล้วจะไม่ฟังอะไรเลย สิ่งใดเป็นประโยชน์กับประชาชนก็นำมาใช้ ตนไม่ได้เป็นคนดื้อแพ่งหรือคิดถึงแต่ศักดิ์ศรี
ผมมีความชัดเจนว่า แผนการฉีดวัคซีนวันนี้เป็นแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้จะตอบคำถามผู้ตั้งคำถามอย่างไรว่า เราต้องฉีดวัคซีนถึงปี 2023 แล้วมันจะช้าหรือไม่ช้า ก็ต้องบอกว่าตอนนี้สิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบและทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้คือตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป จะต้องฉีดให้ได้ 5 ถึง 10 ล้านโดสจนครบ 61 ล้านโดส และระหว่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้น จะมีการซื้อเพิ่ม ฉีดเพิ่ม ก็ยังมีเวลาพิจารณาตัดสินใจตามสถานการณ์ไปเรื่อยๆ”
จากนั้นมีการถกเถียงกันในเรื่องของวัคซีน โดยนายอนุทิน กล่าวว่า “ผมเข้ามาชี้แจง ไม่ได้มาต่อล้อต่อเถียงกับใคร สิ่งที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้เกิดขึ้นให้ได้คือตั้งแต่เดือนมิถุนายน ต้องฉีดให้ได้ 5 ล้านโดส จากนั้นกรกฎาคมเดือนละ 10 ล้านโดส จนครบ 62 ล้านโดส ซึ่งจะฉีดเพิ่ม ซื้อเพิ่มยังมีเวลาพิจารณา”
หลังจากนั้น นายอนุทินก็ได้กดออกจากห้องไป ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายอนุทินตอบคำถามยังไม่เคลียร์เท่าใดนัก