กบง.เคาะแล้ว!!กดดีเซลเหลือ 28 บ. ดีเดย์ธ.ค.นี้ หวังบรรเทาขนส่งประท้วง

1237

สถานการณ์ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่อง กดดันผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ต้องเร่งหามาตรการรองรับ เมื่อสหพันธ์รถบรรทุกประท้วงขู่หยุดวิ่ง เพิ่มความเครียดให้คนไทยกังวลปัญหาสินค้าขาดแคลน ดังที่เกิดขึ้นกับสหรัฐและยุโรป ทางฝั่งรัฐบาลปรึกษากับหลายฝ่ายยังมองว่า ราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 30 บาทนั้นยังเป็นราคาที่สมเหตุผลกับสถานการณ์ทั่วโลก แต่วันนี้กบง.ประชุมและ ตกลงเคาะลดราคาดีเซลเหลือ28บาท ปรับสเปคดีเซลเหลือบี7 โดยเริ่ม1 ธ.ค.นี้ ด้วยหวังว่ากระแสตึงเครียดจากกลุ่มรถบรรทุกจะบรรเทาลง คงต้องติดตามต่อไปว่าจะคลี่คลายไปทิศทางไหน เมื่อฝั่งผู้ประท้วงทั้งสายนักการเมืองและเอ็นจีโอยังยืนยันต้องการ ให้คุมดีเซลเหลือลิตรละ 25 บาท

วันนี้ 24 พ.ย.2564 กบง.แถลงรับข้อเสนอผู้ประกอบการรถบรรทุกลดสัดส่วนผสมน้ำมันดีเซล เหลือ บี 7 สูตรเดียว เป็นเวลา 4 เดือน (ม.ค.64-มี.ค.65 ) คาดตรึงราคาอยู่ในระดับ 28 บาท/ลิตร  แจง แม่บ้านทำใจ ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี ) อาจขยับขึ้น ก.พ. 65

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยภายหลัง การประชุม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี รมว.พลังงานเป็นประธาน วันนี้ (24 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมรับฟังข้อเสนอแนะของภาคประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการรถบรรทุก ในการดูแลราคาน้ำมันดีเซล ดังนั้น กบง.จึงมีมติ ลดสัดส่วนผสมน้ำมันไบโอดีเซล ในดีเซล เหลือเพียง สูตรเดียว คือ บี 7 จากเดิม มีการผสมบี7, บี 10 และ บี 20 โดยจะมีผล 4 เดือน (ม.ค.64-มี.ค.65 ) 

ทั้งนี้ราคาน้ำมันดีเซลจะอยู่ที่ราว 28 บาท/ลิตร  ในขณะเดียวกัน ก็ขอความร่วมมือ กับผู้ค้าน้ำมันยังคงช่วยดูแลค่าการตลาดดีเวล ไม่เกิน 1.40 บาท/ลิตร โดยกรอบการดูแลดีเซลนั้น ยังคงอยู่ที่ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การลดส่วนผสมไบโอดีเซล ซึ่งผลิตจากปาล์มนั้น ทางกระทรวงพลังงาน ได้หารือกับ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  คณะกรรมการนโยบายปาล์ม น้ำมันแห่งชาติ เห็นร่วมมกันว่า สูตรบี 7 เหมาะสมเป็นธรรม และทางรัฐบาลจะมีการชี้แจงเกษตรกร และร่วมผลักดันการส่งออกเพิ่มเติมต่อไป และสาเหตุที่ต้องลดส่วนผสมปาล์ม ลงมาก็เนื่องเนื่องจากราคาปาล์มที่ราคาแพง 

ล่าสุดราคาบี 100 อยู่ที่ 46.88 บาท/ลิตร มีผลต่อราคาดีเซล ราว 1-2 บาท/ลิตร การลดเหลือ บี 7 ก็จะมีผลต่อดีเซลเหลือ 50-80 สต./ลิตร และยังมีส่วนลดการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จาก 1.99 บาท/ลิตร ลดลงด้วยทำให้เงินกองทุนน้ำมันอุดหนุนราคาน้ำมันลดลง106 ล้านบาท/เดือน จาก 4,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 3,886  ล้านบาท/เดือน

 

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 24 พ.ย. 64 เหลือเงินสุทธิที่ 2,956 ล้านบาท  แยกเป็น บัญชีน้ำมัน เป็นบวกที่ 23,356 ล้านบาท เงินบัญชีก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี ติดลบ 20,400 ล้านบาท เป็นผลมาจากการดูแล ราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนมาตั้งแต่ ช่วงเริมโควิด-19 เดือนมี.ค. 63 และจะดูแลจนถึงม.ค. 65 ด้วยการตรึงราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนที่ 318 บาทต่อถัง 15 กก.  แต่ในขณะนี้ คาดว่า หลังจากนั้น หรือ เริ่ม เดือน ก.พ. 65 อาจจะต้องปรับราคาแอลพีจีบ้าง เพื่อลดผลกระทบทางการเงิน และภาระของกองทุนน้ำมัน ซึ่งในขณะนี้ก็มีความจำเป็นต้องกู้เงินมาดูแลราคาพลังงาน

ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบ นับจากนี้ จนถึงไตรมาส 1 /65 ก็ขึ้นอยู่กับ กลุ่มโอเปกพลัสที่จะประชุม 4 ธ.ค..นี้จะมีท่าทีปรับแผนกำลังผลิตอย่างไร หลังจาก สหรัฐและพันธมิ ปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสต์  (SPR ) ออกมา โดยเบื้องต้น สนพ.ประเมินราคาว่าจะอยู่ในระดับ 76-79 ดอลลาร์/บาร์เรล ก็จะทำให้ราคาดีเซล บี 7 อยู่ที่ประมาณ 28 บาท/ลิตร แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นกับค่าเงินบาทด้วย ขณะนี้ อยู่ที่ราว 33.22 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งหากอ่อนค่ามากก็จะทำให้ราคาน้ำมันไทยขยับขึ้น โดยทุก 1 บาท/ดอลลาร์ และ ทุกราคาน้ำมันที่ขึ้น 1 ดอลลาร์/บาร์เรลจะมีผลต่อราคาน้ำมัน 20 สตางค์/ลิตร

การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า!!! ที่รัฐบาลต้องเคลียร์กับม็อบรถบรรทุกที่ต้องใช้หลักของเหตุและผล มองประโยชน์ที่จะไม่กระทบต่อภาพรวม เพราะเวลานี้ประชาชนเองก็ลำบากมากพอกับผลกระทบโควิด-19 กันถ้วนหน้าอยู่แล้ว และต้องไม่ลืมว่าหนี้กองทุนน้ำมันฯ ที่เกิดขึ้นผู้บริโภคน้ำมันก็ต้องจ่ายคืนในอนาคตด้วย โดยการทยอยถูกเก็บเงินในช่วงราคาน้ำมันโลกถูกๆ มาใช้หนี้คืนเช่นที่ผ่านๆ มา และเผลอๆ ก็ต้องรีดจากคนใช้เบนซินผสมโรงไปใช้หนี้ด้วย.เรียกว่าคนใช้เบนซินก็รับเละไปทั้งขึ้นทั้งล่องถือเป็นความไม่ยุติธรรม

ขณะเดียวกันก็อย่าลืมระยะยาวจำเป็นต้องเร่งปรับโครงสร้างรองรับทั้งการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำตามเทรนด์โลก และยานยนต์ไฟฟ้าก็กำลังจะมา  ภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่เป็นรายได้หลักของประเทศจะทำอย่างไร น้ำมันต่างๆ ที่ผลิตจะไปทางไหน เชื้อเพลิงชีวภาพต้องเคลียร์ให้ชัดจะเหลือตัวไหนไม่ใช่ลักปิด-ลักเปิด ฯลฯ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องบูรณาการวางแผนเอาไว้ หากไม่เช่นนั้นประชาชนก็จะกลายเป็นผู้แบกรับภาระเช่นเคย