มะกันเฮ!?ไบเดนยอมถอย ระงับคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนโควิด หลังศาลไม่เห็นด้วย

1198

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศระงับการบังคับใช้คำสั่งของเขาก่อนหน้านี้ที่กำหนดให้ภาคธุรกิจจะต้องให้พนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 หลังศาลอุทธรณ์สหรัฐตัดสินไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว

ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนมีคำสั่งก่อนหน้านี้ ระบุว่า เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.2565 บริษัทเอกชนที่มีพนักงานอย่างน้อย 100 คนจะต้องให้พนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาจำนวน 2 เข็ม หรือวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันจำนวน 1 เข็ม และหากพนักงานคนใดไม่ปฏิบัติตาม ก็จะต้องถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างเป็นประจำ และต้องออกจากงานโดยไม่ได้รับค่าชดเชย ส่งผลให้รัฐต่างๆ ที่เป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกันพากันยื่นฟ้องต่อศาล

ต่อมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลอุทธรณ์สหรัฐมีคำสั่งให้สำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสหรัฐ (OSHA) ระงับการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการบังคับให้พนักงานในภาคเอกชนเข้ารับการฉีดวัคซีน จนกว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างอื่น

ผู้พิพากษาเคิร์ท เองเกลฮาร์ท กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวของปธน.ไบเดนมีความบกพร่องอย่างรุนแรง และกระทำการเกินขอบเขตอำนาจของรัฐบาลกลาง รวมทั้งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐ

ล่าสุด OSHA ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางสำนักงานได้ระงับการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวแล้ว ระหว่างรอการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ารัฐบาลของปธน.ไบเดนจะยื่นเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาสหรัฐในที่สุด

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเชื่อว่าคำสั่งฉีดวัคซีนจะทำให้ธุรกิจที่มีพนักงาน 100 หรือมากกว่าต้องให้พนักงานของตนได้รับการฉีดวัคซีนภายในวันที่ 4 มกราคม 2565 จะครอบคลุมประมาณสองในสามของแรงงานสหรัฐและจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ทันการ ขณะที่ทำเนียบขาวกล่าวว่ากฎหมายให้อำนาจรัฐบาลในการดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อ “อันตรายร้ายแรง” ที่เกิดจากการระบาดใหญ่ได้ จึงเชื่อมั่นว่า กรณีคำสั่งประธานาธิบดีเรื่องนี้จึงถูกต้อง

อัยการสูงสุดของพรรครีพับลิกันใน 26 รัฐเป็นอย่างน้อย รวมถึงธุรกิจส่วนตัวและกลุ่มอุตสาหกรรมจำนวนมากได้ฟ้องร้องปธน.ไบเดนและคณะบริหาร โดยโต้แย้งว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นการบิดเบือนอำนาจของรัฐบาลที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเหนือชีวิตของชาวอเมริกัน

การปะทะกันครั้งนี้ถือเป็นเพียงตัวอย่างล่าสุดของการแบ่งแยกทางอุดมการณ์ ความคิดความเชื่อที่ฝังลึก ระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ขยายไปในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง ข้อกำหนดของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เพื่อหยุดยั้งทำลายไวรัสมักชนกับความพยายามในการปกป้องเสรีภาพส่วนบุคคลของคนอเมริกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง 

เดวิด วลาเด็ค(David Vladeck) ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กล่าวว่า ”มีความเป็นไปได้สูง” ที่คดีจะจบลงที่ศาลฎีกา ซึ่งมีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมอย่างมาก หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอชื่อผู้พิพากษา 3 คนให้ดำรงตำแหน่งใน 9 ที่นั่ง

การบังคับใช้คำสั่งฉีดวัคซีน จะไม่เริ่มจนกว่าจะถึงต้นปีหน้า ทำเนียบขาวและหอการค้าแห่งสหรัฐอเมริกาสนับสนุนให้นายจ้างเริ่มบังคับใช้กฎ vax-or-test หมายถึง ฉีดวัคซีนหรือตรวจเชื้อทุกวันทันที แม้ว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งห้ามก็ตาม

ด้านสหภาพแรงงานยื่นคำร้องฝ่ายบริหารไบเดน ให้ขยายคำสั่งวัคซีนโควิด ครอบคลุมธุรกิจขนาดเล็ก ไม่ได้ฟ้องเพราะคัดค้าน ในขณะที่ทนายความของพรรครีพับลิกันกว่า 26 มลรัฐได้ฟ้องศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลาง 5 แห่งเพื่อระงับนโยบายและมาตรการของไบเดน

ศาลอุทธรณ์ที่ 5 ของสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มอนุรักษ์นิยมมากที่สุดในประเทศ ได้ระงับข้อกำหนดบังคับฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2564 โดยเขียนบรรยายว่าคดีฟ้องร้อง “เชื่อว่ามีประเด็นทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่ร้ายแรงเกี่ยวกับคำสั่งบังคับ”

ศาลสั่งระงับ คำสั่งฉีดวัคซีน เป็นไปเพื่อตอบสนองต่อคำฟ้องของอัยการสูงสุดของพรรครีพับลิกันในรัฐเท็กซัส ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี้ เซาท์แคโรไลนา และยูทาห์ รวมถึงบริษัทเอกชนหลายแห่ง