จีนเอาจริง!!ประกาศใครหนุนเอกราชไต้หวัน ห้ามเข้าแผ่นดินใหญ่ แบนตลอดชีวิต

1573

นับเป็นครั้งแรก ที่รัฐบาลจีนประกาศอย่างชัดเจน เกี่ยวกับบทลงโทษสำหรับผู้ที่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน โดยทางการจีนจะจัดทำบัญชีดำรายชื่อพวกหัวดื้อที่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน ซึ่งรวมทั้ง ประธานาธิบดี, นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน ลั่นจะทำให้คนเหล่านี้รับผิดทางอาญาไปตลอดชีวิต

เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2564 สำนักงานกิจการไต้หวันแห่งจีน มีคำแถลงออกมาในช่วงที่ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวันตึงเครียดสูงสุดในรอบหลายปี และเกิดขึ้น 1 วันคล้อยหลัง ราฟาเอล กลุกส์มานน์ สมาชิกรัฐสภายุโรปชาวฝรั่งเศส เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนไต้หวันอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งประกาศว่ายุโรปยืนหยัดเคียงข้างไต้หวัน

รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์อ้างคำกล่าวของจู เฟิงเหลียน โฆษกหญิงของสำนักงานกิจการไต้หวันที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า รัฐบาลจีนได้จัดทำบัญชีดำกลุ่มคน “หัวดื้อ” ที่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน ซึ่งรวมถึงนายกฯ ซู เจิงชาง, ประธานสภาผู้แทนราษฎร โหยว ซีคุน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โจเซฟ อู๋

โฆษกจีนกล่าวว่า “แผ่นดินใหญ่จะดำเนินคดีทางอาญากับพวกหัวดื้อหนุนเอกราชไต้หวันตามกฎหมาย โดยจะมีผลไปตลอดชีวิต” และว่า นักการเมืองเหล่านี้พยายามกระตุ้นการเผชิญหน้าข้ามช่องแคบ โจมตีและใส่ร้ายแผ่นดินใหญ่อย่างมุ่งร้าย บ่อนทำลายความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบอย่างรุนแรง

รัฐบาลจีนเชื่อว่า ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ผู้นำหญิงคนปัจจุบันของไต้หวัน อยู่ในกลุ่มฝักใฝ่แยกดินแดน และมีแผนประกาศเอกราชไต้หวันอย่างเป็นทางการ แต่ไช่กล่าวว่า ปัจจุบันไต้หวันเป็นประเทศเอกราชอยู่แล้ว โดยมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐจีน (Republic of China)

ด้านนายกฯ ซูแห่งไต้หวัน กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เขาไม่หวั่นเกรงคำขู่ของจีน และว่า จีนไม่ได้ปกครองไต้หวันแม้แต่วันเดียวแล้วจะมาบงการได้อย่างไร 

รัฐบาลจีนจะห้ามบุคคลเหล่านี้และสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่, ฮ่องกง และมาเก๊า พวกที่ถูกขึ้นบัญชีดำจะไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมมือกับหน่วยงานหรือบุคคลจากแผ่นดินใหญ่ และบริษัทของพวกเขาหรือหน่วยงานที่ให้ทุนสนับสนุนพวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้หาประโยชน์จากแผ่นดินใหญ่ด้วย

โฆษกหญิงของจีนกล่าวอีกว่า จีนต้องการส่งสารเตือนผู้สนับสนุนเอกราชไต้หวันด้วยว่า พวกที่ลืมบรรพบุรุษ ทรยศต่อมาตุภูมิ และแบ่งแยกประเทศ จะไม่มีวันลงเอยด้วยดี

พรรคชาตินิยมก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้สงครามกลางเมืองในจีนเมื่อปี 2492 แล้วหนีมาปักหลักที่เกาะไต้หวัน แต่จีนยังคงยึดถือว่าเกาะนี้เป็นส่วนหนึ่งของจีน ที่จีนพร้อมจะใช้กำลังหากจำเป็นผนวกดินแดนเมื่อไต้หวันร่วมมือกับต่างชาติคุกคามอธิปไตยของจีนและประกาศเอกราช นั่นคงต้องการแยกไต้หวันจากจีนภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐและพันธมิตรตะวันตก

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวันแย่ลงนับแต่ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินขี้นกุมบังเหียน เป็นประธานาธิบดี 2 สมัย  และประกาศปฏิเสธไม่ยอมรับจีนเดียว 

ความพยายามลบประวัติศาสตร์ความเกี่ยวพันระหว่างแผ่นดินใหญ่และเกาะไต้หวันอยู่ภายใต้ ยุทธศาสตร์ต้านจีนของสหรัฐเด่นชัดขึ้นตลอดช่วงสองสามปีนี้ และรวมศูนย์ปะทุหนักขึ้น หลังสหรัฐฯพ่ายแพ้กรณีฮ่องกง  แม้ก่อนหน้านี้ ไต้หวันจะสั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารมากขึ้นทุกวัน โดยอ้างแรงกดดันจากจีน ก็ไม่ได้มีท่าทีแข็งกร้าวเช่นช่วงเวลาที่ผ่านมา  

ด้านสหรัฐให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ระดับปธน.โจ ไบเดน ไปจนถึงรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ประกาศจุดยืนอย่างเปิดเผยว่าหนุนหลังไต้หวันเต็มที่ อีกทั้งชวนสหภาพยุโรปเข้าร่วมกระบวนการแบ่งแยกนี้อย่างออกนอกหน้า

ในขณะทางการทูต สร้างภาพว่าพร้อมเจรจาปรับสัมพันธ์จนเจ้าหน้าที่ระดับสูงจีนออกมาตราหน้าว่า เลิกตีสองหน้า พูดอย่างทำอย่างเสียที

ถึงเวลาที่จีนแน่ใจแล้วว่า สหรัฐใช้ไต้หวันบีบบังคับจีนทั้งการทูตและการทหารไม่เลิกรา นับแต่นี้คงต้องจับตาว่า การตอบโต้ทางกฎหมายได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจังแล้ว เหตุการณ์ยั่วยุไต้หวันได้สร้างความชอบธรรมให้จีนตรากฎหมายตอบโต้ต่างชาติแทรกแซงได้เร็วกว่าที่น่าจะเป็น

ขณะเดียวกันภายในไต้หวัน เกิดปรากฏการณ์ไม่ธรรมดาที่มีประชาชนในกรุงไทเปออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ มีการรวมชาติอย่างสันติมีการเดินขบวนเรียกร้องอย่างจริงจัง ซึ่งข่าวต่างประเทศสายตะวันตกไม่มีการรายงาน นอกจากสำนักข่าวท้องถิ่นในไต้หวัน

การที่จีนหยั่งท่าทีสหรัฐ ด้วยการส่งบินรบเฉียดน่านฟ้าเนืองๆ ย่อมส่งแรงกดดันให้ทุกฝ่าย คาดไม่ถูกว่า ยุทธการรวมชาติด้วยกำลังทหารจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่กันแน่ เพราะไม่ว่าจีนจะทำอะไรหรือไม่ทำ สหรัฐและไช่ อิงเหวินแห่งไต้หวันก็ร่วมกันเคลื่อนไหวทางทหารและการทูตกดดันจีนอยู่แล้ว