ตุรกีกร้าว!?!ตะเพิดทูตสหรัฐ-พันธมิตร 10 ปท. ฐานแส่ให้ปล่อยผู้นำต้านรัฐบาล

1437

เค้าลางความขัดแย้งระหว่างตุรกีกับประเทศตะวันตก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธมิตร NATOทวีความรุนแรงขึ้น ล่าสุดเมื่อผู้นำตุรกีสั่งให้กระทรวงต่างประเทศ ประกาศให้เอกอัครราชทูตจาก 10 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ, เยอรมนีและฝรั่งเศส เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา และขับไล่เอกอัครราชทูตของ 10 ประเทศเพราะทั้งหมดได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ให้ปล่อยตัวผู้นำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่ถูกคุมขัง

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2564 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เอร์โดอัน แห่งตุรกี(Recep Tayyip Erdogan) ได้สั่งกระทรวงต่างประเทศประกาศให้เอกอัครราชทูตจาก 10 ประเทศ รวมถึง สหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และเยอรมนี เป็น ‘บุคคลไม่พึงปรารถนา’ (persona non grata) หลังจากพวกเขาออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวนาย ออสมัน คาวาลา นักธุรกิจและนักเคลื่อนไหวชาวตุรกีต่อต้านรัฐบาล ซึ่งถูกคุมขัง

นายเอร์โดอันกล่าว “ผมได้ออกคำสั่งที่จำเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเรา” “ผมบอกเขาว่าต้องทำอะไร ผมบอกว่า คุณจะต้องประกาศให้เอกอัครราชทูต 10 คนนี้เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” เขายังบอกด้วยว่า เอกอัครราชทูตกลุ่มนี้ควรออกไปจากประเทศเมื่อพวกเขาไม่เข้าใจตุรกี

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของตุรกีเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจาก ตุรกีเรียกตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, แคนาดา, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, ฟินแลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์ และสวีเดน เข้าพบ หลังจากพวกเขาออกแถลงการณ์ร่วมกัน เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายคาวาลา ซึ่งตอนนี้ถูกคุมขังเป็นปีที่ 4 แล้ว เอกอัครราชทูตทั้งหมดต่างเป็นตัวแทนของพันธมิตรนาโตของตุรกี

แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวระบุ“ความล่าช้าอย่างต่อเนื่องในการพิจารณาคดีของออสมัน คาวาลา(Osman Kavala) รวมถึงการผสมรวมกันของหลายๆ คดี และการสร้างคดีใหม่หลังจากคดีก่อนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด บดบังการเคารพในหลักการประชาธิปไตย, กฎหมาย และ ความโปร่งใส่ในระบบตุลาการตุรกี”  แต่กระทรวงต่างประเทศตุรกีตอบโต้ว่า แถลงการณ์นี้คือการพูดอย่างไร้ความรับผิดชอบ

ทั้งนี้ นายคาวาลาถูกคุมขังโดยยังไม่ได้ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดตั้งแต่ปี 2560 โดยเมื่อปีก่อนศาลตัดสินให้เขาไม่มีความผิดข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงที่สวนสาธารณะกาซี ในปี 2556 แต่คำตัดสินดังกล่าวถูกยกเลิก และมีการตั้งข้อหาใหม่ว่าเขาเกี่ยวข้องกับความพยายามก่อรัฐประหารในปี 2559

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แอร์โดกันอธิบายว่าคาวาลา เป็น “สายลับในตุรกี” ได้รับการสนับสนุนจากจอร์ช โซรอส (George Soros) มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน-ฮังการี 

ผู้สนับสนุนของคาวาลามองว่า เขาเป็นสัญลักษณ์ของการปราบปรามของปธน.แอร์โดกัน หลังจากรอดชีวิตจากการพยายามทำรัฐประหารในปี 2559

คาวาลาให้สัมภาษณ์สำนักข่าวAFP ของฝรั่งเศส จากห้องขังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ปธน.แอร์โดกันตำหนิการสมรู้ร่วมคิดของต่างประเทศสำหรับการต่อต้านการปกครองเกือบสองทศวรรษของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประท้วงทั่วประเทศในปี 2013 และกล่าวหาว่าเขาเป็นส่วนสำคัญของแผนการนี้”

สภาสิทธิมนุษยชนยุโรปได้ออกคำเตือนครั้งสุดท้ายให้ตุรกีปฏิบัติตามคำสั่งศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปปี 2019 ให้ปล่อยตัวคาวาลาที่รอการพิจารณาคดีในทันที หากไม่ปฏิบัติอาจถูกระงับสิทธิออกเสียงต่อไป