โดนแน่! “เรืองไกร” หอบหลักฐาน “ศรัณย์วุฒิ” แฉ”เพื่อไทย” มีนายทุน ร้องกกต.ขีดเส้นยุบพรรค

2002

หลังจากที่พรรคเพื่อไทย ได้ลงมติขับไล่ ส.ส. 2 ราย คือ 1. นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ เนื่องจากมีพฤติการณ์พูดกล่าวร้ายให้พรรค ทำให้พรรคเกิดความเสื่อมเสีย ทั้งในห้องประชุมรัฐสภา และในการแถลงข่าว 2. น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี โหวตสวนมติพรรคทุกครั้งและไม่ร่วมกิจกรรมกับพรรคนั้น

ต่อมา นายศรัณย์วุฒิ ศรัณเกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้แถลงยืนยันว่า ยังรักพรรคเพื่อไทย และเคารพในตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อไหร่ที่พรรคเพื่อไทยขับออกจากพรรค ก็จะถามประชาชนชาวอุตรดิตถ์ และคนไทยทั่วประเทศ ให้ช่วยตัดสินใจอนาคตทางการเมือง ซึ่งมี 2 ทาง คือ 1.ลาออกจากทุกตำแหน่ง โดยจะหายไปจากการเมืองไทย และ 2.ต่อสู้เคียงบ่า เคียงไหล่กับประชาชน เพื่อให้ประชาธิปไตยเบิกบานด้วยการเอาชนะเผด็จการ ปรากฏว่าชาวอุตรดิตถ์บอกให้ตนสู้ต่อ

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ในเพจเฟซบุ๊กของนายศรัณย์วุฒิ ทันทีที่ทราบการแถลงจากพรรค ได้มีถ้อยคำที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเคาะข่าว ระบุว่า “เพื่อไทยไม่ต้องไล่ ไร้อุดมการณ์ผมไปเอง ศรัณย์วุฒิทำตามกติกาพรรคทุกอย่าง เพราะอยากให้เกิดการเมืองแบบสร้างสรรค์เพื่อพี่น้องประชาชน !” และนายศรัณย์วุฒิ ยังโพสต์ข้อความว่า หากอนาคตจะเป็นอย่างไร ก็พร้อมรับทุกสถานการณ์

ล่าสุดทางด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตกรรมาธิการพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ. เปิดเผยว่า ตามที่นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 3 ก.ย. และให้สัมภาษณ์รายการคนเคาะข่าว เมื่อวันที่ 6 ก.ย. คลิปทั้งสองดังกล่าว มีข้อเท็จจริงทั้งภาพและเสียงบางช่วงบางตอน ดังนี้

1. คลิปรายการ Voice TV หัวข้อ ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ แถลงกรณีไม่อภิปราย ท่ามกลางกระแสข่าวย้ายพรรค เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นคลิป นายศรัณย์วุฒิ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่รัฐสภา มีความยาวประมาณ 37 นาทีเศษ โดยในคลิปบางช่วงบางตอน มีการกล่าวอ้าง ดังนี้ ช่วงประมาณนาทีที่ 3.28 นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า “…แล้ววันนี้ พรรคเพื่อไทยก็ถูกนายทุนครอบ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเจ็บปวดมาก มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ก็มีผู้บริหารบางคน นะฮะ ที่มารับใช้นายทุน…”

ช่วงประมาณปลายนาทีที่ 6.18 นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า “…และสิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือว่า ฝากไปถึงผู้บริหารด้วย ถ้าเอ็งทำหน้าที่อย่างที่มันเกินเลยด้วยความลุแก่อำนาจของเอ็งเนี๊ยะ ฟังไว้นะ คนชื่อศรัณย์วุฒิไม่ยอมก้มหัวให้เอ็งแน่นอนโว้ย เอ็งจำไว้ สำเหนียกด้วยแต่ถ้าเกิดผู้บริหาร หรือเจ้าของพรรคเขาเห็นด้วย ก็เป็นอะไรที่ผมเสียใจมาก…”

ช่วงประมาณนาทีที่ 14.55 นายศรัณย์วุฒิ กล่าวช่วงตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า “ผมใช้คำว่านายทุน ผมไม่อยากใช้คำว่าคนใหม่ ไม่ได้พูดคำว่าคนใหม่นะ มีนายทุน ก็ใช้คำว่านายทุนก็แล้วกัน ถ้า ถ้าพูดอะไรไม่เข้าใจ ก็ขอย้ำว่า มีนายทุนเข้ามาครอบงำพรรค ผมบอกแล้วว่า อย่าไปว่าเป็นใหม่หรือเป็นเก่า ผมใช้คำว่า พรรคถูกนายทุนครอบ ใช้คำนี้ นะครับ ครับ…”

ช่วงประมาณนาทีที่ 25.08 “ขณะที่ เรื่องของการที่คุณศรัณวุฒิย์อ้างนะครับว่า มีนายทงนายทุนอะไรต่างๆ เข้ามาบริหารจัดการภายในพรรคนะฮะ ก็เมื่อผู้สื่อข่าวถามในประเด็นนี้ คุณศรัณย์วุฒิ ก็ไม่ได้ตอบคำถามให้มันเกิดความชัดเจน แล้วก็เรื่องของอนาคตย้ายไปสังกัดพรรคไหน อย่างไร นะครับ คุณศรัณย์วุฒิ ก็ไม่ได้ตอบคำถามเรื่องนี้อีกเช่นกัน…”

2. คลิปรายการ คนเคาะข่าว หัวข้อ “ศรัณย์วุฒิ” ประกาศกร้าว ไม่ก้มหัวให้พวกฉ้อฉล เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 เป็นบทสัมภาษณ์ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ซึ่งมีความยาวประมาณ 33 นาทีเศษ โดยในคลิปดังกล่าว บางช่วงบางตอน มีการกล่าวอ้าง ดังนี้ ช่วงประมาณนาทีที่ 13.50 นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า “…ยิ่งกว่านั้นอีก นะครับ แล้วก็มีนายทุนใหม่ มาครอบพรรค นายทุนคนนี้ชื่อย่อเลยฮะ ไม่เป็นไรหรอก พ.พาน แน่จริงมึงออกมาเผชิญกับกูเลย ไอ้นายทุน พ.พาน คนนี้…”

ช่วงประมาณนาทีที่ 22.48 นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า “แล้วก็ต้องเรียนให้ความยุติธรรมกับท่านนายกฯทักษิณ ผมทราบว่าท่านนายกฯทักษิณ พยายามช่วยผมให้ได้อภิปราย แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่า นายทุนเหล่านี้ นะฮะ ที่มาครอบงำพรรค จะมีอำนาจเหนือกว่าท่านนายกฯทักษิณได้ยังไง…”

ช่วงประมาณนาทีที่ 31.40 นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า “ผมไม่รู้ว่า ทำไม ท่านนายกฯทักษิณ ถ้ารู้เรื่องนี้ ผมว่า ท่านคงไม่ให้ทำ…”

นอกจากนี้นายเรืองไกร กล่าวว่า เนื่องจากนายศรัณย์วุฒิ เป็นส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ข้อเท็จจริงตามคำกล่าวอ้างที่ปรากฏในคลิปทั้งสองดังกล่าว ที่อ้างถึง นายทุนครอบงำพรรค เจ้าของพรรค นายทุน พ.พาน และอดีตนายกฯทักษิณ นั้น เป็นคลิปที่มีความชัดเจนทั้งภาพและเสียง และอาจเป็นการนำข้อมูลภายในพรรคออกมาเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ กรณีตามข้อเท็จจริงจึงมีเหตุที่ควรขอให้กกต. ตรวจสอบ พรรคเพื่อไทย หรือกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย หรือบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างถึงว่า มีการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

อันเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 28 หรือไม่ และจะต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าจะต้องมีคำสั่งยุบพรรคเพื่อไทย ตามมาตรา 92 หรือไม่ รวมทั้งขอให้ กกต. พิจารณาว่า จะต้องดำเนินคดีอาญาตามความในมาตรา 29 ประกอบมาตรา 108 หรือไม่ เช้าวันที่ 20 ก.ย. จะส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อให้ กกต. ตรวจสอบตามหน้าที่และอำนาจต่อไป