จากที่มีอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีอีก 5 คน ท่ามกลางข่าวเล่าลือ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลนั้น???
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวในเรื่องข่าวลือ ดำเนินต่อเนื่อง กระทั่งมีรายงานว่า การล็อบบี้ให้โหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ได้ลุกลามไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคประชาธิปัตย์ โดยรายงานข่าวระบุว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หรือ “ต่อ” ในฐานะเลขาธิการพรรคต้องตามเคลียร์ ท่ามกลางการจับตาว่า จะมีส.ส.ของประชาธิปัตย์ คนใดจะสวนมติพรรคอีกหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้หากย้อนไปก็พบถึงส.ส.บางคนที่บังเอิญเป็นกลุ่มมีความสนิทสนมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยแสดงจุดยืนประชาธิปไตยในพรรคในการโหวตในสภาฯมาแล้ว
ทีมข่าวเดอะทรูธ นำย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังจากการประชุมลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยนายจุรินทร์ กล่าวถึง ส.ส.ของพรรคฯ บางคนใช้สิทธิ์งดออกเสียงเท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น มี 3 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ส.ส.ประชาธิปัตย์ 3 คน ลงมติงดออกเสียงในการโหวตนายจุรินทร์ ประกอบด้วย นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี
นอกจากนี้ยังพบว่า 27 พฤศจิกายน 2562 จากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบญัตติด่วน ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา44 ตามที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน เสนอด้วยคะแนน 236 ต่อ 231 ซึ่งผลคะแนนพลิกล็อกฝ่ายรัฐบาลแพ้
โดย เสียงข้างมาก 236 ต่อ 231 เสียง เห็นด้วยกับการตั้งกมธ. ส่วนใหญ่เป็นเสียงของพรรคฝ่ายค้าน และมี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี นายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก และนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ บัญชีรายชื่อ
28 สิงหาคม 2564 นายจุรินทร์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล 6 คน ว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะสนับสนุนนายเฉลิมชัย
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงที่จะได้รับความไว้วางใจของรัฐมนตรีควรจะเท่ากันทุกคนหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เท่าที่มีปรากฎตอบยากว่าจะเท่าหรือไม่เท่าอย่างไร เอาเป็นว่าสำหรับประชาธิปัตย์พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอยู่ด้วยกันก็ต้องไว้เนื้อเชื่อใจกัน อันนี้คือเบื้องต้น แต่สุดท้ายแล้วใครจะได้เสียงเท่าไหร่อย่างไรนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง
3 กันยายน 2564 นายเฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการลงมติไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์เสียงแตกหรือไม่ โดย นายเฉลิมชัย หัวเราะพร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “มันจบแล้วครับนาย”
ต่อมาเมื่อถึงวันลงมติ 4 กันยายน 2564 ก็ปรากฏผลในการโหวตไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยพรรคประชาธิปัตย์ 48 คน ลงมติไว้วางใจนายกฯ 45 เสียง มีเพียงนายอันวาร์ โหวตสวนไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายพนิต ลงมติงดออกเสียง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ มีนายพนิต และนายอันวาร์ งดออกเสียง , นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีนายชวน นายพนิต และ นายอันวาร์ ลงมติงดออกเสียง , นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สำหรับการลงมติของพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายพนิต และนายอันวาร์ งดออกเสียง
ขณะที่วันเดียวกัน นายพนิต โพสต์เฟซบุ๊ก Panich Vikitsreth ระบุ ว่า ผมได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่วันที่ 1-3 กันยายนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 6 รัฐมนตรี ในทุกประเด็นจาก “ฝ่ายค้าน” และตั้งใจฟังชี้แจงในทุกประเด็นเช่นเดียวกันจาก “รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ” เพื่อที่จะลงมติในวันนี้ วันที่ 4 กันยายน
หลังจากที่ได้รับข้อมูลทั้งหมด และการพิจารณาอย่างรอบคอบ ผมได้ตัดสินใจลงมติ “งดออกเสียง” โดยเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือการที่ผมไม่เห็นด้วยในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลนี้ สำหรับผมการ “งดออกเสียง” คือ “การรักษามารยาททางการเมือง” เนื่องจากผมเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาล
ผมยืนยันจุดยืนเดิมของผม คือการ #ปกป้องประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น หลักการการตัดสินใจของผมนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ผมได้คิด วิเคราะห์มาแล้ว และหลังจากนี้ ผมพร้อมที่จะรับผิดชอบใน “จุดยืน” ของผมกับการลงมติในครั้งนี้ครับ #พนิตคนเดิม #ส.ส.ต้องไม่เป็นเครื่องมือของใครเพราะเราคือตัวแทนประชาชน #อภิปรายไม่ไว้วางใจ