จากที่สิระ เจนจาคะ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการพิจารณางบประมาณในส่วนราชการในพระองค์ ปรากฎว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ลงมติเห็นชอบจำนวน337 คน ไม่เห็นชอบ 47 คน ส่วนใหญ่คือ ส.ส.ฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกล
ทั้งนี้นายสิระ ยังระบุว่า ได้มีส.ส.จากพรรคเสรีรวมไทย โดยหนึ่งในนั้นที่ลงมติไม่เห็นชอบ คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบตร.ว่า ในฐานะผู้แทนราษฎรได้ปฎิญาณตน ไม่ทราบว่า ส.ส.ทั้ง 47 คนจำได้หรือไม่ว่าได้เคยกล่าวปฎิญาณตนก่อนปฎิบัติหน้าที่ ส.ส.ว่าจะจงรักภักดี ซึ่งตนมีความไม่สบายใจ และเคลือบแคลงสงสัยบุคคลบางคนที่ได้รับยศพระราชทานและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ บางคนเป็นตำรวจ รับราชการได้ความดีความชอบ อย่างท่านเสรีพิศุทธิ์ ก็มียศนำหน้าเป็นถึง พล.ต.อ.และได้เหรียญรามา แต่กลับลงมติเช่นนี้
“วันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ลงมติไม่เห็นชอบให้ผ่านมาตรานี้ ผมขอถามว่า ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ ยังมีความทรงจำหรือไม่ว่า ได้รับยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์มาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านต้องบอกประชาชนเลยว่า ท่านไม่ให้งบนี้ผ่าน และจะคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รวมถึงยศ พล.ต.อ.ด้วย ผมขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบสังคมด้วย เรื่องนี้ท่านต้องรับผิดชอบ และชี้แจงกับประชาชนว่า ท่านมีความคิดอย่างไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์” นายสิระ กล่าว
ล่าสุดวันนี้ 24 สิงหาคม 2564 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าว ในประเด็นที่ นาย ท้าตนเอง ให้คืนเครื่องราชฯพร้อมยศ พล.ต.อ. หลังลงมติไม่เห็นด้วยงบประมาณในส่วนพระองค์ ในการประชุมพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีข้อความพร้อมคลิปวีดีโอเผยแพร่ไว้ในเฟซบุ๊กระบุว่า
“ฟังชัดๆ เรื่องผลโหวต พ.ร.บ.งบประมาณ 65 จากปาก “เสรีพิศุทธ์”
สำหรับเนื้อหาบางช่วงที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ชี้แจงไว้มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ว่า “ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนายสิระ และขอถามกลับว่านายสิระ เกี่ยวข้องอะไรด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่คืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เพราะไม่มีเหตุผลใดที่ต้องคืนแต่คนที่ต้องคืนคือนายสิระ เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมเพราะเคยถูกดำเนินคดีและต้องโทษจำคุกมาก่อน
ยืนยันว่าตนจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันมาตลอด การที่นายสิระ ออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้เป็นเพราะตนเป็นคนยื่นเรื่องตรวจสอบนายสิระ พร้อมเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเร่งตรวจสอบคุณสมบัตินายสิระตามที่ตนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปให้เร็วที่สุด
ในหลวงรัชกาลที่ 10 ท่านมีน้ำพระทัย พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ ผ่านทางพลเอกประยุทธ์ นำช่วยเหลือประชาชน หลายพันล้าน มากกว่างบนี้ที่มี 8พันกว่าล้านอีก แถมท่านยังพระราชทานที่ดิน ท่านจะมาสนใจเรื่องนี้เหรอ ในหลวงท่านไม่ยุ่งเรื่องนี้”