จากเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 “เปปเปอร์” หรือ “ฮานันยาห์ ลัดลงเมือง” เน็ตไอดอล ที่มักจะโพสต์ข้อความจาบจ้วงสถาบันบ่อยครั้งพร้อมทั้งยังได้มีการโพสต์ข้อความบิดเบือน ที่เป็นการรับข้อมูลมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น
ทั้งนี้ได้ส่งผลทำให้เยาวชนจำนวนหนึ่ง เกิดชุดความเชื่อแบบผิดๆ จนทำให้เน็ตไอดอล คนดังกล่าวโดนข้อหา ม.112 และ พรบ.คอมฯ แต่แล้วล่าสุดทางด้านของเน็ตไอดอล คนดังกล่าวก็ได้ หนีออกนอกประเทศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ต่อมาเมื่อ เปปเปอร์ เดินทางถึงสนามบินที่ ประเทศแคนาดา ก็ยังได้โพสต์ข้อความที่ค่อนข้างผิดกฎหมายประเทศไทยอีกหลายครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นการเย้ยเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศไทย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างรุนแรง ซึ่งมีเนื้อหาว่า
“ขนลุก แคนาดามารับตัวฉันแบบเร่งด่วน ตำรวจไทยยืนงงเลย ทำอะไรฉันไม่ได้”
ล่าสุดวันนี้ 3 พฤษภาคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก The PARASITE ก็ได้ออกมาแฉถึงกรณีของเปปเปอร์ ว่า นอกจากคดี 112 แล้ว เปปเปอร์ ยังมีคดี ฉ้อโกงหน้ากากอนามัยด้วย โดยโพสระบุข้อความว่า
“UN โดนแหกตาจนได้ หลังประสานช่วยเหลือ สาว(สอง)ไทยลี้ภัยทางการเมืองไปยังแคนาดา โดยอ้างหนีคดี มาตรา 112 แต่อ้าวเฮ้ย!! เคยมีคดีฉ้อโกงหน้ากากอนามัย
วันนี้ เฟซบุ๊ก Pravit Rojanaphruk ของนายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสข่าวสดอังกฤษ และ สมาชิกโครงการสมาคม ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า
สาวไทยลี้ภัย 112 ชื่อ Pepper Hananya ประกาศเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ว่าเธอได้ลี้ภัยทางการเมืองไปถึงแคนาดาสำเร็จ หลังแชร์คลิปปราศรัยทนายอานนท์แล้วโดนข้อหาและไปรับทราบข้อกล่าวหา ชัดเจนว่าแคนาดาซึ่งมีสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบ็ธที่ 2 เป็นประมุข ไม่ยอมรับกฎหมาย112 ว่าเป็นสากล
ปล. เปปเปอร์มีคนตามใน FB เกือบ 90,000 – เธอคงกลายเป็นอีกหนึ่งเสียงดังไจากต่างประเทศ ส่วนจะกระทบการขอประกันตัวชั่วคราวคนอื่นไหม อันนี้ต้องรอดู”
สำหรับ Pepper Hananya ถือเป็นเซเลบเฟซบุ๊กคนหนึ่ง ที่มีคนติดตามจำนวนมาก และ ได้แชร์โพสต์หมิ่นเหม่ จนถูกแจ้งความดำเนินคดีมาตรา 112 แต่อย่างไรก็ตาม คดีของเขายังไม่ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดตามข้อหา แต่เขาก็ลุกลี้ลุกลนผิดสังเกต โดยได้ติดต่อกับกลุ่มอีลีทของม็อบ อย่างนายปวิน ช่วยใช้เส้นสาย จนสามารถลี้ภัยไปยังแคนาดา แซงหน้าเหล่าแกนนำ 3 นิ้ว ได้สำเร็จ (เพราะส่วนใหญ่ยังอยู่ในคุก)
นอกจากนี้เมื่อลองขุดหาข้อมูลของ Pepper Hananya เราก็พบว่าเขามีคดีฉ้อโกงติดตัวอยู่ โดยเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2563 เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มนายหน้าที่กักตุนหน้ากากอนามัย และนำมาขายในราคาแพง แต่คุณภาพต่ำ จนถูกแบล็คลิสต์ในหลายเว็บไซต์ ขนาด มิจฉาชีพโกงหน้ากากอนามัย ยังมีเส้นสายช่วยหลอกยูเอ็น จนลี้ภัยไปต่างประเทศได้ ก็ไม่แปลกใจเลยว่า ถ้ากลุ่มแกนนำหลุดออกจากคุกได้เมื่อไหร่ ก็คงจะได้ลี้ภัยกันทั้งแก๊งแน่นอน
