ไพศาล เผยแผน วงการทูตจัดการ “แก๊งล้มเจ้าต่างแดน” ลั่นต้องเจียมตัวอาจไม่มีแผ่นดินอยู่ ย้อนเคยถูกยื่นเรื่องขับไล่พ้นประเทศลี้ภัย!!
จากกรณีที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR), แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และเจ้าหน้าที่สถานทูตต่างๆ กว่า 14 ประเทศ ได้เข้ามาสังเกตการณ์การพิจารณาคดีของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำคณะราษฎร และได้มีภาพภายในห้องพิจารณาคดีหลุดออกมา ขณะที่นายพริษฐ์ ได้ลุกขึ้นพูดถึงศาลถึงประกาศความอึดอัดใจว่าเหตุใดศาลไม่ให้ประกันตัว ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ตั้งคำถามว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่ทูตถึงได้เข้าไปร่วมฟังการพิจารณาคดีของนายพริษฐ์ และชาวต่างชาติกลุ่มนี้ ก็เป็นกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังม็อบที่ทำลายประเทศชาติหรือไม่?
ล่าสุดทางด้าน นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่บุคลากรวงการทูตเปิดแนวรบกับขบวนการล้มเจ้าในต่างประเทศ โดยระบุข้อความว่า
บุคลากรในวงการทูตไทย เปิดแนวรบกับขบวนการล้มเจ้าในต่างประเทศ!!!! ทูตไทย ในหลายประเทศ พร้อมทั้งอดีต บุคลากรในวงการทูตและทูตทหารไทย ในหลายประเทศ ได้เปิดแนวรบกับขบวนล้มเจ้า ที่หนีคดีไปลี้ภัยในญี่ปุ่น ฝรั่งเศสและสหรัฐ อย่างได้ผล!!!!พวกล้มเจ้าในบางประเทศต้องหยุดเคลื่อนไหว ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัวมากขึ้นแล้ว และในที่สุดอาจถูกขับไล่ออกไปจากประเทศเหล่านั้น!!!
ก็ในเมื่อคนมีอำนาจตระบัดสัตย์ไม่ทำหน้าที่พิทักษ์พระบรมเดชานุภาพ ทรยศชาติบ้านเมือง ปล่อยให้ขบวนการล้มเจ้าย่ำยี สถาบันมาเป็นเวลานานเต็มที จึงข้าราชการและประชาชนที่มีความจงรักภักดีก็ลุกขึ้นทำหน้าที่กันเอง และคาดว่าแนวรบนี้จะขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง!!! จงจัดตั้งกันขึ้น!!!
ท่านผู้รักชาติทั้งหลาย มาเถิด มาเข้าร่วมในแนวรบ ประชาชาติด้วยมือชาญ อย่ามัวยืนสังเกตการณ์ แล้วโบกมืออยู่ริมทาง!!!
ซึ่งหลายคนตั้งได้พุ่งเป้าไปที่นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ที่ลี้ภัยไปอยู่ประเทศญี่ปุ่น และนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส สองนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่หนีคดี ม.112 ซึ่งได้มีการปลุกปั่นเยาวชนด้วยข้อมูลที่บิดเบือนเืพ่อใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด?
ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยมีการเคลื่อนไหวและดำเนินการของกลุ่มคนผู้จงรักภักดี ได้มีการไปยื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยให้จัดการกับนายปวิน โดย เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 นายพานสุวรรณ ณ แก้ว และ นายประกอบกิจ อินทร์ทอง พร้อมตัวแทนคณะบุคคลเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพื่อเรียกร้องขอให้มีมาตรการจัดการกับนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น กรณีจาบจ้วงยุยงปลุกปั่นด้วยคำที่หยาบคายอาฆาตมาดร้าย ต่อสถาบันกษัตริย์ และก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม โดยเจ้าหน้าที่สถานทูต ออกมารับหนังสือ ท่ามกลางกำลังตำรวจ สน.ลุมพินี ทั้งสายตรวจและฝ่ายสืบสวน ที่เดินทางมาดูแลความเรียบร้อย
ถัดมาเพียง 5 วัน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 นายอัครกฤษ นุ่นจันทร์ ตัวแทนกลุ่มไทยภักดี ยื่นหนังสือ 3 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น เสนอข้อเรียกร้อง 4 ประการ เพื่อขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นมีมาตรการจัดการกับ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นผู้ที่นำเสนอข้อมูลบิดเบือนต่างๆ เกี่ยวกับสถาบันไปเผยแพร่บนสื่อออนไลน์จนอาจก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทย โดยขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นหยุดยั้งและตรวจสอบพฤติกรรมของนายปวิน โดยมีกลุ่มประชาชนประมาณ 10 ราย ต่างกายด้วยเสื้อสีเหลือง ผูกริ้บบิ้นลายธงชาติ และห้อยนกหวีดคอยชูป้ายให้กำลังใจ ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นออกมารับหนังสือ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของ ตำรวจ สน.ลุมพินี