“เจ้าของโพสต์หมิ่นสถาบัน” เร่ขอรับบริจาคเงิน อ้าง จ้างทนายฟ้องคนเห็นต่าง!!

6878

จากกรณีที่ พิมรี่พาย พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ แม่ค้าออนไลน์และยูทูปเบอร์ชื่อดัง ได้เดินทางไปที่ หมู่บ้านแม่เกิบ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่

เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านและเด็กๆ ซึ่ง พิมรี่พาย ก็ได้ทุ่มเงินของตัวเองกว่า 5 แสนบาท ในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาส โดยวันที่ทำกิจกรรมดังกล่าวนั้น มีครูเจตน์ สทธิคุณ เป็นครูประจำที่สอนอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ และได้เล่าว่าที่หมู่บ้านเด็กประมาณ 40 คน เด็กไม่มีความฝันเพราะมองภาพอะไรไม่ออก ทั้งหมู่บ้านไม่มีใครเรียนจบ ม.ต้นเลยสักคน พวกเขาจินตนาการไม่ออกว่า ถ้าได้เรียนต่อแล้วมันจะเป็นยังไงต่อ ที่นี่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีทีวีที่สามารถเผยแพร่ให้เด็ก ๆ ดูได้ และการมาทำกิจกรรมของพิมรี่พายในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโลกให้เด็ก ๆ จนเกิดเสียงชื่นชมจำนวนมากนั้น

ต่อมาก็มี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Beam Akapol ที่โพสต์ข้อความถึงกรณีของพิมรี่พาย โดยระบุข้อความว่า
“พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่…ขึ้นดอยมา 70 ปี ….//ไม่พูดดีกว่า”

ซึ่งทำให้เกิดกระแสสังคมตีกลับ โพสต์ดังกล่าวมากมาย โดยไปในลักษณะโจมตีและแสดงความไม่เห็นด้วยถึงการใช้คำเหน็บแนมส่อเสียดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์

ต่อมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Beam Akapol ได้โพสต์ข้อความหมิ่นพระเกียรติในหลวงร.9 และจี้ไปยังองปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ และ ผบ.หน่วยตำรวจปราบปรามความผิดทางไซเบอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เอาผิดกับผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า

เรียน ผู้บังคับบัญชา กองปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ และ/หรือ ผบ.หน่วยตำรวจปราบปรามความผิดทางไซเบอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า บุคคลผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า Beam Akapol ได้กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างท้าทาย ความผิดซึ่งหน้าเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ประชาชนแจ้งความดำเนินคดีหรอกนะครับ ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการอย่างนี้มันใช้ไม่ได้…บนอินทรธนูข้างขวาของท่าน ประทับความเป็นราชองครักษ์ด้วยพระปรมาภิไธยย่อไว้ ไม่สำนึกกันบ้างหรืออย่างไร …ทำไมไม่บังคับใช้กฎหมายล่ะครับ เพิกเฉยอย่างนี้ ใช้ไม่ได้ครับ
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
10 ม.ค.64 เวลา 11.35 น.

ซึ่งการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวนี้ หากเพิกเฉยต่อการปฏิบัติหน้านี้ ก็จะเข้าข่ายความผิดจามมาตรา 157 “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ”

ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Beam Akapol ที่โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า
“สวัสดีครับ เราคือคนที่เป็นประเด็นอยู่ในเฟซบุ๊กตอนนี้ ตอนนี้กำลังโดนสลิ่มเล่นงาน และกำลังรวบรวมหลักฐานส่งให้ทนายเพื่อฟ้องคอมเมนต์หมิ่นประมาท เราอยากรบกวนทุกคนช่วยโดเนทเรา เพื่อนำเงินไปจ้างทนายหน่อย ที่เลขบัญชี …….”