จับแก๊งเพื่อนสาว 29 ปีติดโควิด-19 พบตระเวนเที่ยวแม่สาย-นั่งรถทัวร์เตรียมไปพัทยาต่อ

3685

จากกรณีที่มีการตรวจพบ ผู้ป่วยโควิดเชียงใหม่ โดยเป็นหญิงไทย อายุ 29 ปีเดินทางจากประเทศเมียนมาร์เข้าประเทศไทยจากเชียงรายมายังเชียงใหม่ ซึ่งมีอาการป่วยและมีประวัติไปสถานที่หลายแห่งในเชียงใหม่ มีผู้สัมผัสใกล้ชิดกว่า 300 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 100 คนนั้น ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า กรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 คนที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหญิง อายุ 29 ปี พักคอนโดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่

จากการลงพื้นที่ของทีมสอบสวนโรคเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักควบคุมโรคที่ 1 ผู้ป่วยรายนี้มีไทม์ไลน์ เดินทางจากจังหวัดเชียงรายเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถประจำทางบริษัทกรีนบัส เส้นทางเชียงราย-เชียงใหม่ เวลา 11.00 – 15.00 น. จากนั้นได้เดินทางด้วยรถ (Grab1) เข้าพักคอนโดของตนเองที่ ดีคอนโดพิงค์ และได้เดินทางไปเที่ยวร้านคิงส์เวย์ โฮสต์แอนด์คาราโอเกะ กับเพื่อนอีก 2 คน ในช่วงดึก ก่อนที่จะไปพักค้างคืนที่วีดีคอนโดมิเนียมกับเพื่อน

อีกทั้งได้เปิดเผยไทม์ไลน์การเดินทางตั้งแต่ช่วงวันที่ 25- 26 พ.ย. 2563 และได้ออกประกาศขอความร่วมมือว่า สำหรับผู้ที่ไปในสถานที่ดังกล่าว ขอให้ท่านกักกันตนเองจนกระทั่งครบ 14 วันหลังวันสัมผัส สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการ ให้โทรนัดหมายเพื่อตรวจในวันที่ 1 ธ.ค. 2563 (ตามระยะฟักตัวเฉลี่ย) โดยหากพบอาการผิดปกติระหว่างการกักกันให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติความเสี่ยงต่อบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) สสจ.เชียงใหม่ โทร 084-8053131, 084-8052121


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : คกก.โรคติดต่อเชียงใหม่ เปิดไทม์ไลน์ “หญิงวัย 29” ป่วยโควิด เดินทางจากพม่าเข้าไทย สั่งทุกคนไปสถานที่เสี่ยงติดเชื้อ กักตัวด่วน

ล่าสุดร.อ.พิสิฐ อภิเดชผบ.ร้อย.ม.3 บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตมง) จ.เชียงรายกรมควบคุมโรคติดต่อ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ร่วมกันควบคุมตัวและสอบสวนชายหญิงจำนวน 4 คน ประกอบด้วย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี น.ส.ซี (นามสมมุติ) และนายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี

หลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบคนกลุ่มนี้เคยไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านและเดินทางเข้าออกตามช่องทางธรรมชาติในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าเคยทำงานไปทำงานในฝั่งประเทศเมียนมาจริง โดยทำงานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง เมืองเมียวดี ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอดจ.ตาก

จากนั้นเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยด้วยการลักลอบข้ามลำน้ำเมยตรงท่าข้ามผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมาก่อนจะเดินทางไปเที่ยว อ.แม่สายเมื่อวันที่ 26 พ.ย.และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง กระทั่งกำลังจะเดินทางกลับโดยน.ส.บี (นามสมมุติ) และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ถูกควบคุมตัวขณะเดินทางจะไปเมืองพัทยา ด้วยรถโดยสารปรับอากาศไปตามถนนพหลโยธินและจะผ่านด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง ต.แม่จัน อ.แม่จันจ.เชียงราย ส่วน น.ส.กนกพร และนายภัทรภรณ์ถูกควบคุมตัวขณะยังพักอยู่ที่โรงแรมดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาทั้งหมดว่าไม่เดินทาง เข้ามาใน หรือออกไปนอกราชอาณาจักร ตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าและสถานี หรือท้องที่ที่กำหนด ตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11 และถูกส่งตัวเข้ากักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองเขียงราย ซึ่งใช้เป็นสถานที่กักดูอาการหรือ local quarantine แล้ว

ขณะที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย มีกำหนดแถลงข่าวเวลา 08.00 น.ที่อาคารศาลากลางจ.เชียงราย เพื่อยืนยันกรณีพบผู้ป่วยหญิง อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ขุนตาล จ.เชียงราย และเคยร่วมกับหญิงสาวผู้ติดเชื้อที่ จ.เชียงราย ทำงานใน จ.ท่าขี้เหล็ก และลักลอบกลับมาพร้อมกันแต่แยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาตัวเอง ปัจจุบันป่วยมีอาการไข้รักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และตรวจหาเชื้อผลเป็นบวกมาแล้ว 1 ครั้ง