แพทย์ศิริราช เผยวัคซีนโควิด-19 ยังไม่รองรับการรักษา มีปัจจัยสารพันธุกรรมกรรมเปลี่ยนแปลง เร็วสุดที่จะได้ใช้คือกลางปี 64

1664

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล วิเคราะห์สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกว่า ขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤติมาก แนวโน้มแย่ลง

จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งสูงถึง 60 ล้านคน ซึ่งจำนวนคนไข้ที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลให้ศักยภาพการรักษาลดลง

ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ยังไม่เข้าสู่การระบาดรอบ 2 ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงถึง 3 ปัจจัย คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยยังอยู่ในภาวะวิกฤต และยังคงมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น , สภาพอากาศ เย็น ที่จะส่งผลให้คนอยู่ในอาคารมากขึ้นซึ่งเป็นพื้นที่ปิด และละเลยการสวมใส่หน้ากากอนามัยทำให้เชื้อโรคแพร่ได้ง่ายและการชุมนุมการเมืองตามพื้นที่ต่างๆ ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคเช่น ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย , ตะโกน และไม่เว้นระยะห่าง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยทั้ง 3 ปัจจัยนี้จะส่งผลอาจทำให้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง

ส่วนความคืบหน้าการผลิตวัคซีนโควิด-19 ขณะนี้มีบริษัทที่อยู่ในขั้นตอนการศึกษาทดลองในสัตว์ 88 แห่ง ส่วนบริษัทที่เข้าสู่เฟสที่ 1 คือศึกษาในคน มีจำนวน 35 บริษัท เน้นดูเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เข้าสู่เฟสที่ 2 ศึกษาในคนที่มีความหลากหลาย เช่น อายุ วัย เพศ ใช้จำนวนคนทดลองหลักพัน มีจำนวน 14 บริษัท เข้าสู่การทดลองในเฟสที่ 3 ศึกษาประสิทธิภาพการป้องกันโควิด-19

โดยใช้วัคซีนจริงและวัคซีนหลอกเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการป้องกันโรคโควิด-19 โดยขั้นตอนนี้ใช้จำนวนคนหลักหมื่น มีจำนวน 11 บริษัท และมีอีก 6 บริษัทที่มีการอนุโลมนำวัคซีนมาใช้ในบางพื้นที่ แต่ทั้งหมดยังไม่มีบริษัทใดได้การรับรองประสิทธิภาพจากองค์การอนามัยโลก

จากการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตขึ้นในปัจจุบัน อาจไม่รองรับการป้องกันในอนาคต เนื่องจากพบว่ารหัสพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คาดว่าจะมีวัคซีนที่ใช้ได้อย่างเร็วที่สุด กลางปีหน้า

อย่างไรก็ตามทางด้านศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ ยังระบุ แม้ว่าขณะนี้การผลิตวัคซีนโควิด-19 ยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ สิ่งที่สามารถป้องกันโควิด-19 คือการล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่าง ส่วนเรื่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ควรมีเงื่อนไขทำตามมาตรการป้องกันโรค