เครื่องบินรบของกองทัพอิสราเอล โจมตีเป้าหมายในฉนวนกาซา เป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาไม่กี่วัน อ้างตอบโต้ที่มีจรวดลอยข้ามแดน ด้านอิหร่านออกมาประณามและทบทวนความแค้นเรื่องการสังหารนายพลสุไลมานี สหรัฐและอิสราเอลเป็นตัวการจะต้องชดใช้
Israel has bombed the Gaza Strip for the second time this week.
The attacks damaged several homes in the al-Bureij refugee camp, according to witnesses. pic.twitter.com/AJ1RoieyV1
— Al Jazeera English (@AJEnglish) April 21, 2022
เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2565 สำนักข่าวอัลจาซิราและไทมส์ออฟกาซา รายงานว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) ออกแถลงการณ์ ว่าเครื่องบินรบหลายลำของไอดีเอฟปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ในพื้นที่ทางตอนกลางของฉนวนกาซา เมื่อช่วงรุ่งสางของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น สามารถทำลายแหล่งผลิตจรวดที่อยู่ใต้ดินและศูนย์ฝึกอีกสองแห่งที่เป็นของกลุ่มฮามาส เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้น เพื่อตอบโต้การยิงจรวดข้ามเขตแดนออกจากฉนวนกาซา ลอยมายังอิสราเอล โดยเป็นครั้งที่สองต่อจากเหตุการณ์เมื่อช่วงรุ่งสางของวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งไอดีเอฟปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ในเขตทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เพื่อตอบโต้จรวดที่ลอยข้ามพรมแดนมาเช่นกัน
ด้านกลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ว่า ยิ่งไอดีเอฟปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาบ่อยครั้งขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ชาวปาเลสไตน์เกิดการต่อต้าน และเพิ่มแรงจูงใจ ในการปกป้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นครเยรูซาเลมมากขึ้นเท่านั้น
ทั้งนี้ เดือนรอมฎอนของทุกปี ถือเป็นช่วงเวลาของความตึงเครียด ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปีนี้ตึงเครียดตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดเหตุรุนแรงหลายระลอกในอิสราเอล
ในเดือนมีนาคม กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 29 คนในการบุกโจมตีฝั่งตะวันตก เนื่องจากมีผู้เสียชีวิต 14 คนในอิสราเอลจากการโจมตีตามท้องถนน
For the fifth day in a row, a video showing the first moments of the Israeli raid on Al-Aqsa mosque this morning. pic.twitter.com/MUQE2XJnOO
— TIMES OF GAZA (@Timesofgaza) April 21, 2022
ตำรวจปราบจลาจลของอิสราเอลยังได้บุกโจมตีบริเวณมัสยิดอัล-อักซอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีผู้นับถือมุสลิมชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 158 คนบาดเจ็บ จับกุมกว่า 300 คน ความตึงเครียดในปีนี้เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งจากเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมซึ่งสอดคล้องกับการเฉลิมฉลองปัสกาของชาวยิว
ชาวปาเลสไตน์กล่าวหาอิสราเอลว่า บุกรุกที่อัล-อักซอโดยอนุญาตให้ผู้นับถือยิวเข้าไปในบริเวณศักดิ์สิทธิ์ของมัสยิดโดยไม่ได้ศรัทธา พวกเขากล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการละเมิดนโยบายที่มีอายุหลายศตวรรษซึ่งผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมสามารถเข้าชมได้ต้องแจ้งผู้รับผิดชอบ
ผู้นำอิสราเอลกล่าวว่าพวกเขากำลังให้ประกันเสรีภาพในการนมัสการสำหรับทุกศาสนาในเยรูซาเลม แต่ปล่อยให้กองทหารความมั่นคงบุกรุกมัสยิดอัลอักซออยู่หลายวัน ดูย้อนแย้งมาก
มัสยิดอัลอักซอ เป็นเส้นสีแดงของชาวมุสลิมไม่เฉพาะในปาเลสไตน์ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับสามในศาสนาอิสลาม ขณะเดียวกันเมืองเยรูซาเล็มก็เป็นที่เคารพนับถือของชาวยิวเนื่องจากเป็นที่ตั้งของวัดโบราณสองแห่งของชาวยิวและคริสเตียน
ปฏิกิริยาของอิหร่านต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งทวงแค้นทั้งประณาม
ผู้บัญชาการกองทัพปฎิวัติอิหร่านกล่าวว่าศัตรูของเตหะราน ‘ขอเราหลายครั้ง’ ให้เลิกล้างแค้นนายพลโซไลมานี(Gen.Soleimani)ที่ถูกสังหาร ‘แต่นี่เป็นจินตนาการที่เป็นไปไม่ได้ เราจะไม่ยอมแลกเพื่อการยุติคว่ำบาตรของสหรัฐและพันธมิตร’และประนามการกระทำของกองทัพอิสราเอลถล่มกาซาทำลายชีวิตประชาชนปาเลสไตน์
อิหร่านประณามอิสราเอลว่าเป็นผู้รุกรานแบบ “ไซออนิสต์” หลังจากการปะทะกันระหว่างชาวปาเลสไตน์และชาวยิวอิสราเอลที่มัสยิดอัลอักซอ ในกรุงเยรูซาเล็มแล้วโดนกองกำลังอิสราเอลบุกปราบเมื่อวันศุกร์สัปดาห์ก่อน
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) เรียกการปะทะดังกล่าวว่าเป็น “การทำลายคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม” และกล่าวว่า “ดำเนินการโดยกองกำลังทหารและความมั่นคงของระบอบไซออนิสต์ด้วยการใช้ยุทโธปกรณ์ทางทหารและโจมตีผู้นับถืออิสลามชาวปาเลสไตน์อย่างไร้ความปราณี”
นอกจากนี้ยังให้คำมั่นสัญญาถึง “คลื่นลูกใหม่” ของการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และกลุ่มที่ลุกขึ้นต่อต้านอิสราเอล ใน”การกระทำที่ก้าวร้าวและก่ออาชญากรรมใหม่”
อิสราเอล ซึ่งผนวกกรุงเยรูซาเลมตะวันออก เป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมายภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ หลังสงครามปี 1967 โดยอ้างว่ากรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงนิรันดร์ของยิว ข้อพิพาทนี้ถูกเพิกเฉยจากองค์กรโลกบาลทุกแห่งภายใต้การครอบงำของสหรัฐและตะวันตก สถานการณ์ในปาเลสไตน์ทุกวันนี้ ชาวบ้านถูกคุกคามขับไล่ทุกเมื่อเชื่อวันจนเหลือพื้นที่อาศัยอยู่เพียงน้อยนิด และใกล้จะถูกทำให้สูญสิ้นไปจากแผ่นดินในไม่ช้า ท่ามกลางการต่อสู้ดิ้นรนของปชช.ปาเลสไตน์ และความรุนแรงรายวันที่สื่อตะวันตกไม่สนใจรายงาน!!