“กุนซือความมั่นคงไบเดน”ปล่อยไก่ รัสเซียยึดเคียฟไม่ให้เพราะอาวุธอเมริกา เจอความจริงฟาดหน้าเงิบ

1460

จากที่กองทัพรัสเซียเดินหน้าโจมตีกรุงเคียฟและเมืองอื่นๆ รอบใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนประกาศชัยชนะในเมืองมารีอูปอลซึ่งได้ประกาศเส้นตายให้กองทหารยูเครนวางอาวุธในเวลา 06.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายนที่ผ่านมานั้น

ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า กองกำลังรัสเซียได้เคลียร์พื้นที่เขตเมืองของมารีอูปอลแล้ว และมีเพียงนักรบยูเครนกลุ่มเล็กๆ ที่ยังคงอยู่ภายในโรงงานเหล็กในเมืองมารีอูปอล ซึ่งรัสเซียย้ำว่า ทุกคนที่วางอาวุธจะได้รับการรับประกันความปลอดภัย แต่พวกเขาต้องออกจากโรงงานดังกล่าวภายในเวลา 10.00 น. โดยปราศจากอาวุธ

นอกจากนี้เพจเฟซบุ๊ก World Update ก็ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่กองทัพรัสเซียได้ยึดเมืองท่ามารีอูปอลเรียบร้อยแล้ว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากกลาโหมรัสเซียด้วยเช่นกัน

ต่อมาวันที่ 19 เมษายน 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์ในกรุงเคียฟผ่าน Blockdit ว่า

“ใจเย็นๆ ไว้เจค…รัสเซียยังไม่ส่งสัญญาณบุกยึดเคียฟในตอนนี้:

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของโจ ไบเดน ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมา เป็นพวกโปรยิว คลั่งทฤษฎี Globalism (ลัทธิรัฐบาลเดียวแต่เป็นพ่อทุกรัฐบาล) สนับสนุนอิสราเอลให้รุกรานโลกอาหรับ ยุให้รัฐบาลอเมริกาทำสงครามกับรัสเซียและจีน ยุให้อเมริกาป่วนนานาชาติโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายระหว่างประเทศ

ออกมาคุยโม้ว่ารัสเซียยึดเคียฟไม่ได้เพราะอาวุธอเมริกา  เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลอเมริกุ๊ยนี่เองที่อยู่เบื้องหลังยุให้ยูเครนสู้กับรัสเซียและขนอาวุธให้ยูเครนรบกับรัสเซีย

อาวุธอเมริกาไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกครับ เรื่องใหญ่สำหรับรัสเซียคือตอนนี้ ยูเครนส่งกองทัพเข้าไปรุกรานเขตดอนบัสที่ชาวรัสเซียอาศัยอยู่ ต้องกวาดล้างให้สิ้นซากเสียก่อน

ยึดเคียฟได้แต่ต้องเสียหลายพื้นที่ในดอนบัสให้ยูเครนก็ไม่น่าจะถูกต้อง รัสเซียจึงส่งกองทัพไปกวาดล้างในดอนบัสให้หมดเสียก่อน ส่วนมารีอูปอล รัสเซียคงกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ ณ ที่มั่นสุดท้ายคืออาซอฟสตอล (Azovstal) ได้ภายในอาทิตย์นี้แหละครับ

กฎเกณฑ์ในการทำสงครามของรัสเซียคือเริ่มจากเบาไปหาหนัก เพื่อมิให้ชาวโลกประณามว่าใช้อาวุธหนักกับประเทศอื่นโดยเฉพาะประเทศที่เล็กกว่า แต่เมื่อใดที่รัสเซียเห็นว่าทำลายศัตรูได้ยาก ก็จะยกระดับอาวุธให้ไฮเทคขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถล่มคลังแสงอาวุธในห้องใต้ดินของยูเครน ขีปนาวุธธรรมดา ทำอะไรไม่ได้ รัสเซียก็หันไปเลือกใช้ไฮเปอร์โซนิก เป็นต้น

ต่อไป เมื่อถึงคิวเคียฟ รัสเซียเห็นว่าจำเป็นต้องใช้ไฮเปอร์โซนิก ตึกสำนักงานศูนย์บัญชาการกองทัพยูเครนที่เคียฟก็จะเละ ตาเฒ่าโจ ไบเดนถึงไม่กล้ามาเยี่ยมเซเลนสกีที่เคียฟยังไงละครับ”