จากกรณีที่ดร.สมเกียรติ โอสถสภา ได้โพสต์ข้อความระบุถึงสถานการณ์ในประเทศโซนยุโรป ที่กำลังกลายเป็นสงครามเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อประชากรยุโรปอย่างมาก
โดยความเห็นของประชาชนชาวอังกฤษ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะนสพ.เทเลกราฟ จำนวนคนที่เห็นด้วยกับการแซงชั่นรัสเซียลดลงมาเหลือเพียง 36% จากที่เคยสนับสนุนถึง 50% ประชาชนบอกว่าไม่มีเงินจ่ายค่าพลังงานมากขึ้นอีกแล้ว ส่วนใหญ่บอกว่าฐานะเศรษฐกิจแย่ลงมาก อียูมีชาติมีตังค์ไม่กี่ชาติเอง เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ ฮอลแลนด์ นอกนั้นจน ดูสำรองได้เลย หากไม่มีเงินอียู เอาประเทศรวยมาค้ำ เงินประเทศยุโรปชาติต่าง ๆ จะต่ำกว่านี้สาม สี่เท่าอย่างน้อย หลายประเทศจะลงเป็นสิบเท่า อียูแตก เงินยูโรไม่มี ของจริงจะมา
ขณะที่สถาบันการเงินเยอรมนีเตือน ผลของการคว่ำบาตรทำเงินเฟ้อหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี ด้านหน่วยงานรัฐบาลชี้ ปริมาณก๊าซสำรองที่มีอาจอยู่ได้ถึงช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น
โดยล่าสุดทางด้านคาร์ล ฟอน โรห์ รองประธานดอยซ์แบงค์ หรือ ธนาคารเยอรมัน ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนและสถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี กล่าวกับหนังสือพิมพ์แฟรงค์เฟิร์ตเตอร์ อัลเจไมน์ หนังสือพิมพ์ของเยอรมนีว่า ราคาผู้บริโภคในเยอรมนีจะเพิ่มขึ้น 7-8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2022 ซึ่งหากรัฐบาลทำการจำกัดการนำเข้าพลังงานของรัสเซีย ราคาผู้บริโภคก็อาจพุ่งขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านั้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ประเทศจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับอัตราเงินเฟ้อที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 (หรือกว่า 50 ปีที่แล้ว)
เมื่อเดือนที่แล้ว อัตราเงินเฟ้อประจำปีในเยอรมนีแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.3 เปอร์เซ็นต์ ราคาพุ่งสูงขึ้นหลังจากสหภาพยุโรปและประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ คว่ำบาตรรัสเซีย หนังสือพิมพ์แฟรงค์เฟิร์ตเตอร์ อัลเจไมน์ ได้มีการทำผลสำรวจเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ชาวเยอรมันกว่าครึ่งไม่เห็นด้วยกับการห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย
ด้านหน่วยงานเครือข่ายของรัฐบาลกลางของเยอรมนีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ n-tv ว่า หากเยอรมนีตัดอุปทานนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย ปริมาณก๊าซสำรองในประเทศจะคงอยู่ได้จนถึงสิ้นฤดูร้อน (ปลายสิงหาคม) หรือต้นฤดูใบไม้ร่วง (ต้นกันยายน) เป็นอย่างช้าที่สุด
ทั้งนี้ เยอรมนีได้ให้คำมั่น ที่จะเพิ่มความพยายามในการลดการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย โดยในช่วงหนึ่งเดือนครึ่งที่ผ่านมา เยอรมนีสามารถลดเปอร์เซ็นต์การนำเข้าน้ำมันของรัสเซียจาก 35 เปอร์เซ็นต์เป็น 25 เปอร์เซ็นต์ และลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติลงจาก 55 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 40 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่การนำเข้าถ่านหินของรัสเซียลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 25 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตามเยอรมนีก็มีคาดการณ์ว่า อาจต้องใช้เวลาจนถึงฤดูร้อนปี 2024 ที่จะยุติการพึ่งพาพลังงานของรัสเซียได้อย่างสมบูรณ์