ต.อ.กลางระอุ!! อิหร่าน-ฉนวนกาซา-จอร์แดน ประท้วงยิวโจมตีมัสยิดอัลอักซอ ประกาศเตรียมรับผลเอาคืน

1496

ในสภาวะที่สงครามยูเครนยังตึงเครียด และมีแนวโน้มเพิ่มความรุนแรงขยายวงสู่ยุโรปโดยเฉพาะพันธมิตรนาโต้ ที่กระตือรือร้นจะรบกับรัสเซียอย่างสุดกำลัง เพราะเชื่อมั่นในการสนับสนุนของสหรัฐทั้งการเงินและอาวุธ อีกซีกโลกหนึ่งที่ความรุนแรงมีอยู่ทุกวันและเงียบวันเพราะสื่อตะวันตกอำพราง  หากมีข่าวออกมาก็จะที่ความเกลียดกลัวอิสลามหัวรุนแรง สร้างภาพว่าพรรคพวกของตัวถูกทำร้ายจากพวกก่อการร้าย แต่ปิดบังความเหี้ยมโหดที่อิสราเอลกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง

ล่าสุดเหตุการณ์ที่นำรวจอิสราเอล บุกไปปราบปรามชาวปาเลสไตน์ที่กำลังละหมาดในมัสยิดอัลอักซอ เพื่อฉลองวันตรุษเทศการรอมฏอน ส่งผลสะเทือนไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง  หลายประเทศมีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตอิสราเอล อิหร่าน จอร์แดนและฉนวนกาซ่าในปาเลสไตน์

ผู้ประท้วงโห่ร้องคำขวัญเรียกร้องให้กลุ่มอาหรับและนานาชาติสนับสนุนมุสลิมผู้มีสิทธิที่จะเคารพนับถือมัสยิดอัล-อักซอ และชาวปาเลสไตน์ผู้ถูกโจมตีไม่หยุดในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครองอย่างไม่ชอบธรรม

วันที่ 16 เม.ย.2565 สำนักข่าวอัลจาซิรารายงานว่า เมืองฉนวนกาซา  ชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนออกไปตามท้องถนนเพื่อประท้วงกองกำลังตำรวจอิสราเอลที่บุกเข้าไปในมัสยิดอัลอักซอ (Al-Aqsa) เมื่อวันศุกร์ 

ผู้ประท้วงตะโกนสโลแกนที่เรียกร้องให้มีการสนับสนุนอาหรับและนานาชาติสำหรับผู้ไปละหมาดที่มัสยิดอัล-อักศอ และผู้ที่อยู่ในดินแดนที่ถูกยึดครองซึ่งเผชิญกับความรุนแรงที่ทวีสูงขึ้นต่อชาวปาเลสไตน์ของกองกำลังอิสราเอล

ผู้คนหลายพันมารวมตัวกันที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อละหมาดวันศุกร์ทุกสัปดาห์ในช่วงเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีการปะทะกันเกิดขึ้น ทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 150 คนได้รับบาดเจ็บและถูกจับกุมประมาณ 300 คน

ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่การประท้วงในฉนวนกาซา กาเล็ต อัลบาทส์( Khaled al-Batsh) สมาชิกอาวุโสของขบวนการอิสลามิฮาด ประณามการโจมตีของอิสราเอลต่อผู้มาละหมาดที่มัสยิดในเช้าวันศุกร์ว่า “วันนี้เรารวมตัวกันในฉนวนกาซาเพื่อแสดงการสนับสนุนต่อผู้คนในเยรูซาเลมและฝั่งตะวันตก เราสนับสนุนการต่อต้านของประชาชนและขอแสดงความนับถือต่อจิตวิญญาณของผู้พลีชีพของเราชาวปาเลสไตน์ “จะไม่นิ่งเฉย” หากการละเมิดของอิสราเอลยังดำเนินต่อไป

โอเมอร์ บาร์เลฟ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอล “ไม่สนใจ” ต่อความรุนแรงที่บริเวณอัล-อักซอ เขาเสริมว่า กองกำลังอิสราเอลจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับ “กลุ่มที่มีความรุนแรง” ที่ใช้ก้อนหินโจมตีพวกเขา

ด้านอิหร่านและจอร์แดน แสดงออกในการประณามตำรวจอิสราเอลอย่างพร้อมเพรียง

รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ฮุสเซน อะมิราบดอลลาฮีน (Hossein Amirabdollahian) ประณามการกระทำของตำรวจอิสราเอลที่บุกเข้าไปในมัสยิด Al-Aqsa ในกรุงเยรูซาเล็มอย่างก้าวร้าวและแสดงการสนับสนุนขบวนการฮามาสให้ออกมาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ชาวปาเลสไตน์อย่างจริงจัง

ด้านชาวจอร์แดนได้จัดให้มีการประท้วงใกล้สถานทูตอิสราเอลเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ ผู้ประท้วงตะโกนต่อเนื่องว่า “ไม่มีไซออนิสต์บนดินจอร์แดน!” และ “ชาวจอร์แดนต่อต้านการมีความสัมพันธ์กับอิสราเอล!”

พวกเขายังประณามอย่างรุนแรงต่อการปราบปรามผู้มาละหมาดของตำรวจอิสราเอลที่มัสยิด Al-Aqsa ในกรุงเยรูซาเล็ม

ความรุนแรงเมื่อเร็วๆ นี้เกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มชาวยิวที่อยู่ห่างไกลออกไปเรียกร้องให้มีการบุกโจมตีบริเวณมัสยิดอัล-อักซอในช่วงวันหยุดเทศกาลปัสกาของชาวยิว และการเซ่นสังเวยสัตว์ในลานบ้าน และตำรวจอิสราเอลก็อาศัยข้ออ้างนี้บุกรุกมัสยิดซึ่งเป็นที่เคารพของอิสลามทั่วโลก

มัสยิดอัล อัก ซอ(Al-Aqsa) คือเส้นสีแดง เยรูซาเล็มเป็น ดินแดนแห่งการบริจาคของอิสลาม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่ง มีความหมายศักดิ์สิทธิ์ทั้งสำหรับชาวมุสลิมชาวคริสต์และชาวยิว ได้นำไปสู่การเผชิญหน้ากันหลายครั้งระหว่างชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอล ความรุนแรงในปีที่แล้วได้จุดชนวนให้เกิดสงคราม 11 วันของอิสราเอลต่อฉนวนกาซา ยืดเยื้อแผ่ขยายจนนานาชาติต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย  เหตุการณ์ปะทะที่มัสยิดอัลอักซอ ได้รื้อฟื้นความทรงจำที่โลกลืมเลือนไปแล้วอีกครั้งหนึ่งว่า  ในซีกโลกแห่งตะวันออกกลาง ความขัดแย้ง การสู้รบยังคงดำเนินอยู่ ไม่คลี่คลาย แต่รอวันปะทุในวันหนึ่งข้างหน้า ท่ามกลางกระแสสับสนวุ่นว่าย สงครามและความขัดแย้งผุดขึ้นทั่วโลก!!