จากกรณีที่มีรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยถึงมติในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในเรื่องระงับสถานภาพสมาชิกของรัสเซียในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) โดยให้เหตุผลว่า มีการดำเนินการอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและเป็นระบบในยูเครน
ซึ่งในข้อมตินี้ได้รับการผลักดันจากสหรัฐอเมริกา พบว่า ชาติสมาชิกยูเอ็นลงมติสนับสนุนร่างข้อมติ 93 เสียง คัดค้าน 24 เสียง งดออกเสียง 58 ประเทศ โดยประเทศที่คัดค้านนั้นประกอบไปด้วย รัสเซีย จีน ลาว เวียดนาม อิหร่าน คาซัคสถาน เบลารุส และหลายประเทศในแอฟริกา และพบว่าประเทศไทย โหวตงดออกเสียงด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้พบว่า จะมี 2 ประเทศในอาเซียน คือลาวและเวียดนาม ที่ไม่ออกเสียงขับรัสเซีย ทำให้น่าจับตามองว่า 2 ประเทศนี้ถือว่าเป็นเสียงสำคัญในอาเซียน และมีสาเหตุที่ไม่ออกเสียงครั้งนี้ โดยทราบกันดีว่า ความสัมพันธ์ของจีนกับรัสเซียนั้น มีความแน่นแฟ้น จีนเลือกที่ไม่ตามเกมสหรัฐฯ คว่ำบาตรรัสเซีย เพราะเชื่อว่าจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อทั่วโลก ทำให้นานาประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ แสดงท่าทีไม่พอใจจีน ความสัมพันธ์ของจีนกับรัสเซีย ส่งผลมาต่อประเทศลาว และเวียดนาม ที่ทำให้เลือกยืนข้างเดียวกับจีนเช่นกัน เพราะมีรายงานว่า จีนเคยจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ให้ลาว ฟรี 3 ครั้ง รวม 1.4 ล้านโดส รวมทั้งจีนยังได้บริจาควัคซีนเพิ่มอีก 2 ล้านโดส ตัดหน้าคำประกาศบริจาคไฟเซอร์ของรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส สหรัฐฯ เพียงวันเดียวด้วย
นอกจากนี้ในที่ประชุม ไทยเองก็งดออกเสียงเช่นกัน โดยจะเห็นว่า ทั้งลาวและเวียดนาม ก็มีความเห็นคล้อยตามไทย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศ มีความสัมพันธ์อันดีกับไทยมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับลาวไทยถือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ 2 ฝั่งโขง และเวียดนามไทยก็มีความร่วมมือในกรอบอาเซียนมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความสัมพันธ์ในอดีตยังแน่นแฟ้นมากกว่า 45 ปีอีกด้วย จึงถือเป็นเหตุผลสำคัญที่ทั้ง 2 ประเทศจะงดออกเสียง เป็น 1 ใน 58 ประเทศ ที่คัดค้านนั้นขับรัสเซีย เพราะไม่มีหลักฐานที่โปร่งใส