ลั่นกลองรบหรือสงบศึก ?!!? จับตา 15 ส.ค.สหรัฐ-จีน เจรจาตกลงการค้า ท่ามกลางความสัมพันธ์ย่ำแย่ บีบคั้นกันมากอาจฉีกสัญญา?!!

2267

ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดทางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน 15 ส.ค.นี้ตัวแทนการค้าทั้งสองประเทศ จะติดตามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่ลงนามกันไปเมื่อ 6 เดือนก่อน ทางฝ่ายสหรัฐเตรียมถามเหตุจีนไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าและบริการของสหรัฐตามทีสัญญาไว้ ฝายจีนพร้อมเจรจา แต่หากบีบคั้นมากคาดอาจต้องฉีกสัญญาที่ไม่สอดคล้องสถานการณฺฺ์และจีนถือว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากสหรัฐได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว

15 ม.ค. 2020 ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของผู้นำจีน ได้ร่วมกันลงนามในข้อตกลงการค้าระยะแรกระหว่างจีนกับสหรัฐที่ทำเนียบขาว ข้อตกลงเฟสแรกมีจำนวน 86 หน้า เป็นผลสืบเนื่องหลังจากที่ทั้งจีนและสหรัฐใช้เวลาหารือทางการค้ากันมานานเกือบ 2 ปี ซึ่งผลักดันให้มหาอำนาจทั้งสองชาติเข้าสู่สังเวียนสงครามการค้า ในลักษณะตาต่อตาฟันมาโดยตลอด

รายละเอียดที่เป็นรูปธรรมในข้อตกลงการค้าเฟสแรกนี้ ประกอบด้วย

-จีนให้คำมั่นซื้อสินค้า”หลากหลายชนิด” จากสหรัฐเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นสองแสนล้าน ภายในเวลา 2 ปี

-จำนวนนี้แบ่งเป็น จีนซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐในปี 2020 ที่มูลค่า 77,000 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นเป็น 123,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพื่อให้ครบมูลค่ารวม 2 แสนล้านตามข้อตกลง

-เมื่อนำมูลค่าการส่งออกของสหรัฐในปัจจุบัน รวมเข้ากับมูลค่าสินค้าและบริการที่จีนจะซื้อจากสหรัฐตามข้อตกเฟสแรก จะส่งผลให้สหรัฐมีมูลค่าการส่งออกไปยังจีนทะยานขึ้นเป็น 263,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 และจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 309,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2021

-สินค้าด้านอุตสาหกรรมจากสหรัฐ มูลค่า 32,900 ล้านดอลลาร์ ใน 2020 และเพิ่ม 44,800 ล้านดอลลาร์ใน 2021

-สินค้าเกษตรสหรัฐ 12,500 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 และเพิ่มเป็น 19,500 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021

-สินค้าพลังงานสหรัฐ 18,500 ล้านดอลลาร์ในปี2020 เพิ่มเป็น 33,900 ล้านดอลลาร์ในปี 2021

-สินค้าบริการ มูลค่า 12,800 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 เพิ่มเป็น 25,100 ล้านดอลลาร์ใน 2021

-สินค้าภาคการผลิต อาทิ ผลิตภัณฑ์เหล็ก ตู้เย็น เครื่องบริภัณฑ์อุตสาหกรรม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยา 

รถยนต์ เครื่องมือด้าน Optical instrument

-สินค้าเกษตร อาทิ เมล็ดพืชน้ำมัน ถั่วเหลือง ข้าวโพด เนื้อสัตว์ ธัญพืช ฝ้าย และอาหารทะเล

วันที่ 15 ส.ค. 2020 คือวันชี้ชะตา สหรัฐ-จีนจะลั่นกลองรบหรือร่วมมือ ?

นสพ.วอลล์สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า ตัวแทนของ 2 ประเทศนายโรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์, ผู้แทนการค้าของสหรัฐ และ นายหลิว เหอ,รองนายกรัฐมนตรีของจีน จะประชุมทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เป็นการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติตามข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกซึ่งจัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศย่ำแย่ลงอย่างมาก อีกทั้ง การระบาดใหญ่โควิด-19 เป็นปัจจัยพื้นฐานส่งผลให้จีนไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้ในสัญญาได้

ซึ่งด้านหลักของข้อตกลง คือจีนได้ให้สัญญาว่าภายใน 2 ปี จะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ สินค้าภาคการเกษตร, พลังงาน, สินค้าอุตสาหกรรม และภาคบริการ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกิจการที่เป็นกลุ่มสนับสนุนปธน.ทรัมป์และพรรครีพับลิกัน) แต่ว่าจากข้อมูลของสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สันพบว่า จนถึงปัจจุบัน จีนนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 40,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ รายงานอ้างอิงที่ปรึกษาของรัฐบาลจีนชี้ว่า การประชุมในวันที่ 15 ส.ค.นี้ จะชี้ชะตาสถานะของข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งหากสหรัฐกดดันจีนอย่างหนักให้บรรลุข้อตกลง โดยไม่คำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย ก็อาจนำไปสู่การฉีกข้อตกลงเฟสแรกได้

เมื่อก่อนเจรจาทั้งสองฝั่งแสดงท่าที่เป็นลบเช่นนี้ ก็แน่นอนว่าแนวโน้มในทางลบ มีความเป็นไปได้สูง เพราะจีนอ่านเกมออก ว่าเนิ้อแท้ของสหรัฐคืออะไร ข้อตกลงการค้าเป็นเพียงข้ออ้างที่จะเดินหน้าเป้าหมายที่แท้จริงเท่านั้น

สงครามการค้า-สงครามเย็น จะเข้มข้นแค่ไหน ประเทศไทยจะรับมือกับแนวโน้มของสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างไร? ไม่เพียงรัฐบาล และ ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เท่านั้นที่จะต้องตระเตรียม เราคนไทยทุกคนย่อมต้องติดตาม เข้าใจ เตรียมตัวตั้งหลัก รับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น  ไม่นานคงจะได้เห็น!

 

https://www.marketwatch.com/story/us-chinese-officials-to-meet-aug-15-to-assess-trade-deal-compliance-2020-08-04?mod=home-page

https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/3096144/china-feel-pressure-negotiators-prepare-trade-deal