หลังจากที่ทางการรัสเซียออกกฎหมายใหม่ให้ระงับการออกวีซ่าให้กับพลเมืองของประเทศที่ถูกระบุว่าไม่เป็นมิตร เพื่อตอบโต้เพิ่มเติมจากการถูกคว่ำบาตร และเตรียมกลับมาเปิดเที่ยวบินอีกครั้งให้กับประเทศที่พวกเขาถือเป็นมิตร หลังวันที่ 9 เมษายน 2565 นี้ ทำให้ชาติตะวันตก และกลุ่มประเทศในโซนยุโรป รวมทั้งยูเครนต่างเดือดร้อนหนัก
เพราะก่อนหน้านี้ บางประเทศที่ไม่เป็นมิตร ก็ถูกกดันให้จ่ายค่าก๊าซเป็นสกุลรูเบิลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนมีหลายชาติเริ่มสยบให้กับผู้นำรัสเซีย เพราะยื้อต่อไม่ไหว เนื่องจากเสี่ยงต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในประเทศของตนเอง
ขณะที่สื่อของรอยเตอร์รายงานระบุว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ลงนามในพระราชกฤษฎีกา ในการจำกัดวีซ่าสำหรับพลเมืองของประเทศต่าง ๆ ที่มอสโกมองว่า “ไม่เป็นมิตร” เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรกรณีบุกยูเครน
พระราชกฤษฎีกาซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ ที่ 4 เม.ย.นี้ทันที โดยจะระงับระบบการออกวีซ่าแบบง่ายของรัสเซียกับบางประเทศในสหภาพยุโรป เช่นเดียวกับนอร์เวย์, สวิตเซอร์แลนด์, เดนมาร์ก และไอซ์แลนด์ และยังสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียและหน่วยงานอื่น ๆ ให้ทำการจำกัดการเข้าประเทศต่อ “พลเมืองต่างชาติและคนไร้สัญชาติที่กระทำการอย่างไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย, พลเมืองของรัสเซีย หรือนิติบุคคลของรัสเซีย” ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลรัสเซียได้ประกาศรายชื่อประเทศที่ไม่เป็นมิตรออกมา เช่น สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, รัฐในสหภาพยุโรป และยูเครน เป็นต้น
แต่ในขณะเดียวกัน รัสเซียจะกลับมาเปิดเที่ยวบินไปกลับอีกครั้งกับ 52 ประเทศที่เป็นมิตร หลังจากวันที่ 9 เม.ย. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการโควิด โดยนายกรัฐมนตรี มิคาอิล มิชูสติน ของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียวางแผนที่จะเปิดเที่ยวบินไปกลับจากอาร์เจนตินา, แอฟริกาใต้, แอลจีเรีย, จีน, เลบานอน, เปรู, ปากีสถาน และ “ประเทศที่เป็นมิตร” อื่น ๆ ซึ่งหมายถึงประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเกี่ยวกับกรณีการบุกยูเครน รวมทั้งจะยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนทางบกระหว่างรัสเซียและจีนอีกด้วย ทั้งนี้คาดว่าจะมีรายชื่อของประเทศไทย ที่รัสเซียเปิดเที่ยวบินให้เดินทางด้วย ภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย