“ยุโรป” ย้อนยุค ถูกลอยแพ ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน หลังคว่ำบาตรรัสเซีย

ชะตากรรม สุดเลวร้าย!? “ยุโรป” ย้อนยุค ถูกลอยแพ ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน หลังคว่ำบาตรรัสเซีย!

หลังจากที่ความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ลุกลามไปถึงขั้นแตกหัก และสหรัฐฯรวมถึงยุโรปออกหน้าหนุน ยูเครน เต็มที่ ถึงขนาดที่ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย โดยคิดว่าทั่วโลกจะเอาด้วย แต่ผลสุดท้ายไม่ใช่อย่างที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ คิดไว้แต่อย่างใด เมื่อประเทศผู้ส่งออกก๊าซ และน้ำมัน ต่างไม่เล่นด้วย และยังคงทำการค้ากับ รัสเซีย ต่อไป

ล่าสุดทางด้านของ เพจสาธารณะ World Update ซึ่งเป็นเพจที่เกาะติดสถานการณ์ ยูเครน-รัสเซีย อย่างใกล้ชิด ได้เปิดเผยว่า ยุโรป ระทม ถูกลอยแพให้ย้อนยุค เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน

ประเทศที่ผลิต และส่งออกก๊าซมากที่สุดในโลก 3 ลำดับแรกจากมากไปหาน้อย คือ รัสเซีย กาตาร์ สหรัฐ ในยุโรปนั้น จำเป็นต้องใช้ก๊าซรวมกันมหาศาลมากถึงกว่า 300,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี โดยพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียราว 50% หรือราว 150,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ผ่านระบบท่อลำเลียงที่ซับซ้อน 5 ท่อ สะดวกประหยัด ราคามิตรภาพต่ำมากๆ แต่เมื่อยุโรป ถูกสหรัฐหลอกให้แบนรัสเซีย รัสเซียก็แบนสวนกลับบ้าง

โดยการปิด 1 ท่อส่งก๊าซ Yamal ส่งผลให้ปริมาณก๊าซหายวับไปในพริบตา สต็อกก๊าซแต่ละประเทศเริ่มหมดลง สหรัฐ ได้ทีขี่แพะไล่บีบสหภาพยุโรป EU ให้ลงนามใน”สัญญาทาส” ซื้อก๊าซจากสหรัฐในราคาแพงกว่ารัสเซียถึง 3-5 เท่า เป็นขั้นบรรไดยาวนานถึง 8 ปี 2022 – 2030 แต่ปีนี้สหรัฐสัญญาว่าจะส่งมาทางเรือให้ได้แค่ 15,000 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น หรือทดแทนก๊าซรัสเซียได้แค่ 10% ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ

ในปีต่อๆ ไปจะเพิ่มขึ้นทีละน้อยจนถึงปี 2030 จะได้ 50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือทดแทน 1 ใน 3 ที่รัสเซียขายให้ ยังขาดอีก 2 ใน 3 ดังนั้นยุโรป ก็หวังพึ่งพาก๊าซจากกาตาร์อีก 15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่แล้วทางการกาตาร์ ก็ออกมาบอกว่า “ไม่ผลิตเพิ่มให้ยุโรป” โดยให้เหตุผลว่า “การชดเชยก๊าซธรรมชาติรัสเซีย ในตลาดยุโรปนั้นคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้” ด้านสหรัฐ ที่ได้สัญญาก๊าซจากยุโรปไปแล้ว ก็ลอยแพไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ตัวใครตัวมัน

โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในยูเครนทุกแห่ง ก็โดนกองทัพรัสเซียยึดไปหมดแล้ว ตัดการจ่ายไฟฟ้าเข้ายุโรป ตอนนี้ EU จึงขาดแคลนพลังงานในการผลิตไฟฟ้าอย่างหนัก ต้องจำใจย้อนยุคโบราณ กลับไปใช้ “ถ่านหิน” มาเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแทนก๊าซ โดยใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น 51% จากเดิม ก่อมลพิษ ก่อโรคเพิ่มขึ้น และยังสวนทางกับเป้าหมายลดโลกร้อนอีกด้วย

แม้แต่เยอรมนี ก็ยังไม่รอดต้องสั่งปัดฝุ่นเดินเครื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินแทนก๊าซ แต่ก็โชคร้ายซ้ำอีก เมื่อรัสเซีย ก็คือผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่สุดถึง 1 ใน 3 ที่ยุโรปต้องใช้ และรัสเซียก็แบนถ่านหินยุโรป ทำให้ต้องวิ่งไปหาถ่านหินจากทวีปอื่นแสนไกล คือ โคลอมเบีย แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และสหรัฐ มาใช้แทน ขนส่งทางเรือมาไกลจึงแพงกว่ารัสเซียหลายเท่าอยู่ดี

ชาวยุโรป หลายร้อยล้านคนนั้น จำเป็นต้องใช้พลังงานจากรัสเซียอย่างเลี่ยงไม่ได้ คือ น้ำมัน ก๊าซ ผลิตไฟฟ้าแทนถ่านหิน เพื่อลดมลพิษ แต่รัฐบาลยุโรปดันถูกสหรัฐหลอกให้เปิดศึกพลังงานกับรัสเซีย สุดท้ายก็ถูกสหรัฐบีบให้ทำสัญญาทาส ซื้อก๊าซราคาแพงนาน 8 ปี กาตาร์ก็ไม่กล้าขายก๊าซเพิ่มให้ยุโรป เพราะเกรงใจขาใหญ่รัสเซีย

สุดท้ายยุโรปก็ต้องก้มหน้าใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าแทน และซื้อราคาแพงจากทวีปอื่น ค่าไฟฟ้ามหาโหดก็วนไปขูดรีดกับชาวบ้านตาดำๆ..”สหรัฐ รวยยิ้มร่า แต่ยุโรป ระทมทุกข์” ส่วนรัสเซีย ก็ย้ายไปขายให้จีน และประเทศอื่นใช้พลังงานราคาถูกแทน..เรื่องแบบนี้สื่อตะวันตก สื่อไทย และ NGOs จะไม่พูด