นักวิชาการต่างชาติ จับพิรุธ “ยูเครน” ปกปิดข้อมูลต่อสื่อ ชี้ชัดปูตินแพ้ในสงครามข่าว แต่เซเลนสกีกลับแพ้บนสมรภูมิจริง!?

1435

จากกรณีที่มีรายงานว่า ผู้นำยูเครน ออกมาแถลงการณ์ล่าสุด เรียกร้องให้รัสเซียให้ความร่วมมือเจรจาสันติภาพ พร้อมกล่าวว่า มิเช่นนั้นคนรุ่นหลังอาจต้องรับกรรมใช้เวลาในการฟื้นฟูความเสียหายจากสงครามอีกนาน แม้ว่าหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ต่างมองว่า ทั้ง 2 ประเทศนี้ ใกล้ถึงจุดที่จะเจรจากันได้ และสงครามจะจบในเร็ว ๆ นี้ ทำให้น่าติดตามสถานการณ์แบบรายวัน อย่างใกล้ชิด

ล่าสุดบิลล์ รอจจิโอ (Bill Roggio) นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจาก Foundation for Defense of Democracies และบรรณาธิการวารสาร Long war ระบุว่า ปูตินอาจพ่ายแพ้ในสงครามข่าวสาร แต่เซเลนสกีอาจพ่ายแพ้ในสมรภูมิสู้รบจริง และตะวันตกไม่ควรหลอกตัวเองว่ายูเครนจะชนะ

ในขณะที่สงครามยูเครนกำลังจะเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 การสู้รบขยายวงไปยังเมืองต่าง ๆ และตามชนบท เช่นเดียวกับสงครามข้อมูลข่าวสารที่แพร่สะพัดไปตามอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย

บิลล์ รอจจิโอ ระบุว่า ในสมรภูมิจริง การสู้รบของรัสเซียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปอย่างช้า ๆ แต่ว่าสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นการหยุดชะงักอาจเป็นผลมาจากการที่รัสเซียใช้เวลาในการจัดกองกำลังให้เข้าที่เข้าทางและปรับปรุงโลจิสติกส์เสียใหม่

ในสงครามข่าวสารของฝั่งตะวันตก พวกเราได้รับการบอกเล่าตั้งแต่วันแรก ๆ ของความขัดแย้งว่ากองทัพรัสเซียจะต้องแตก เนื่องจากมีการบาดเจ็บล้มตายมากและการหนีทัพ รวมทั้งเสียงคัดค้านจากภายในประเทศ

คลิปวิดีโอความเสียหาย ความพ่ายแพ้ของรัสเซียมีให้เห็นมากมายในสื่อต่าง ๆ แต่น่าแปลกใจที่รายงานการสูญเสียของฝั่งยูเครนมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ ตลอด 3 สัปดาห์ที่สู้รบกัน วลาดิมีร์ ปูติน ยังคงเป็นประธานาธิบดี และกองกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียยังไม่พังทลาย แต่กำลังเคลื่อนอย่างช้าๆ แม้จะไม่สมบูรณ์และไม่เป็นระเบียบ

ด้านยูเครนชนะสงครามบนโซเชียลมีเดียและสื่ออย่างเบ็ดเสร็จ สิ่งนี้ทำให้ชาวตะวันตกทั่วไปปลาบปลื้มกับชัยชนะที่เอนเอียงไปทางฝั่งยูเครน

อีกทั้งเพนตากอนยังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสงครามในแต่ละวันแม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่ได้ทำสงครามนั้นเองก็ตาม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

การประเมินของเพนตากอนมักจะใกล้เคียงการการประเมินจากรัฐบาลยูเครน และว่านี่ไม่ใช่การประณามการใช้ข้อมูลข่าวสารและการบิดเบือนข่าวสารของตะวันตก

แทคติกเหล่านี้มีบทบาทในการบริหารจัดการความขัดแย้ง แต่ตะวันตกไม่ควรหลอกตัวเองด้วยความเชื่อที่ว่ายูเครนจะรอดพ้นด้วยความคิดเพ้อฝัน

รัสเซียทำแคมเปญบิดเบือนข่าวสารอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าประชาชนของตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกันในสิ่งที่ปูตินเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร”

เมื่อวันศุกร์ (18 มี.ค.) ที่ผ่านมา รัสเซียจัดการรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่เพื่อแสดงให้เห็นว่าชาวรัสเซียยังหนุนหลังปูติน ขณะที่ชาวรัสเซียนับพันคนถูกจับกุมเพราะประท้วงการทำสงคราม

ปูตินยังเตือนบรรดาผู้ที่ไม่เห็นด้วยในรัสเซีย โดยเปรียบเทียบคนเหล่านั้นเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ และส่งสัญญาณว่าจะมีการควบคุมเข้มงวดขึ้น รวมทั้งการผ่านกำหมายที่กำหนดให้การประท้วงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยผู้ประท้วงอาจถูกปรับหรือจำคุก

ผู้นำที่ต้องการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันจะไม่ใช้แทคติกเหล่านี้ ในขณะที่แต่ละฝ่ายพยายามโปรโมทเกี่ยวกับความสำเร็จของตัวเอง สัญญาณหนึ่งที่เป็นไปได้ของสภาพที่แท้จริงของการป้องกันประเทศยูเครนคือ การเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ปูตินเปิดฉากทำสงคราม

หากไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต เซเลนสกีต้องพึ่งพาตะวันตกในการจัดหาอาวุธ การคว่ำบาตร การห้ามค้าขาย และการสนับสนุนในรูปแบบอื่น ๆ ยังต้องคอยดูกันต่อไปว่าความพยายามเหล่านี้จะเพียงพอสำหรับการหันหลังให้รัสเซียหรือไม่