“ปิยบุตร” โดนกระหน่ำด่าเละเทะ หลังดึง “ลิซ่า” มาเป็นเครื่องมือเล่นการเมือง

1067

ปชช.เหลืออดแล้ว!? “ปิยบุตร” โดนกระหน่ำด่าเละเทะ หลังดึง “ลิซ่า” มาเป็นเครื่องมือเล่นการเมือง โจมตีรัฐบาล!?

หลังจากที่มีประเด็นสุดร้อนแรงเมื่อทางด้านของ ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า ไอดอลสาวชาวไทย สมาชิกวง Blackpink ได้ไปเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังยี่ห้อหนึ่ง จนกลายเป็นกระแสให้กลุ่มสนับสนุนผู้ชุมนุมนำมาโยงโจมตีรัฐบาล

ล่าสุดทางด้านของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ถึงประเด็นดังกล่าวในหัวข้อว่า “ปัญหากฎหมายห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชี้ยิ่งเอื้อทุนใหญ่ผูกขาด – ปิดโอกาสผู้ประกอบการรายย่อยเติบโต” โดยใช้ภาพประกอบเป็น ลิซ่า ถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมข้อความว่า “สุดปัง! ลิซ่า โฆษณาเหล้า แต่พวกเราทำแล้วโดนจับ จากกฎหมายเจ้าปัญหา”

โดยเนื้อหาโดยรวมนั้นทางด้านของ นายปิยบุตร พยายามพูดถึง มาตรา 32 ของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีปัญหา 3 อย่า คือ 1.เป็นมาตราที่จำกัดสิทธิเสรีภาพเกินกว่าเหตุ 2.โทษสูงกว่าที่ควรจะเป็น และ 3.เปิดช่องให้มีการเลือกปฏิบัติ

นอกจากนี้ทางด้านของ นายปิยบุตร ยังมองว่า การห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คนต้นคิดของการออกแบบกฎหมายแบบนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่อยากจะเพิ่มโทษให้หนักขึ้น พวกเขาคงมองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แค่มิติเดียว คือเป็นสิ่งที่มอมเมา ทำให้เสียสติ ทำให้เสียสุขภาพ โดยไม่ได้มองมิติทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และเรื่องทลายทุนผูกขาดในประเทศนี้เลย

เพราะถ้ามองในมิติของการทลายทุนผูกขาด การให้โฆษณาจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาได้ เพราะรายใหญ่นั้นคนรู้จักอยู่แล้ว ผลิตตัวใหม่มาก็มีช่องทางทำให้คนรู้จักได้ไม่ยาก แต่รายเล็กซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หวังรวยจากการทำธุรกิจนี้ แต่ทำเพราะชอบ กลับโฆษณาไม่ได้ ทำให้คนไม่รู้จัก ก็เกิดการผูดขาดต่อไป

ยังมีในมิติเรื่องทางวัฒนธรรม ประเทศไทยมีวัตถุดิบหลากหลายที่นำมาทำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ขายในเรื่องการท่องเที่ยวได้ อย่างในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ก็ทำเรื่องนี้เต็มไปหมด และอีกมิติคือเรื่องของชุมชน ที่การรวมกลุ่มคนในชุมชนจะสามารถทำเรื่องนี้ได้ผ่านการโฆษณาผลิตภัณฑ์ของตนเอง

ดังนั้น ผมอยากเชิญชวน ให้มองมิติที่กว้างขึ้น แล้วหาทางสมดุล การห้ามด้วยวิธีออกกฎหมายวิธีเดียวนั้นไม่ได้ เพราะความเสียหายที่ตามมานั้นมหาศาล

หลังจากนั้นได้มีประชาชนจำนวนมาก ต่างเกิดความไม่พอใจ ที่ทางด้านของ นายปิยบุตร พยายามโหนความมีชื่อเสียงของ ลิซ่า มาเป็นกระบอกเสียงทางการเมืองเพื่อสนับสนุนแนวคิดตนเอง เช่น “กฎหมายของคนละประเทศ ย้ำว่าเป็นกฎหมายของคนละประเทศ จะเอาลิซ่ามาโพสต์เพื่ออะไร” , “คนอื่นมีให้โหน แต่ โหนคนนี้ดีกว่า โถ่ อีปิ อยู่เมืองนอกเห่าเปนหมา อยู่เมืองไทย เงียบเป่าสาก ถถถถถถ ขอบคุณทุกคอมเม้น ที่เข้ามาด่า” , “มีคนบอกว่าไอ้บูดแค่เอาน้องมายกตัวอย่าง การยกตัวอย่างมันก็คือการเอาน้องมาโหนนี่ล่ะ แถกันเก่งเรื่องคำเนี่ย 5555”