หลังจากที่มีรายงานว่า คณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียและยูเครนกำหนดเจรจากันต่อผ่านระบบวิดีโอเมื่อวันที่ 16 มี.ค. เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นการเจรจาที่นานเกินกว่า 1 วัน ครั้งแรก และสองฝ่ายมองว่าเป็นการเจรจาที่จริงจังขึ้นอีกขั้น ส่วนการเจรจาที่ผ่านมามีความคืบหน้าเพียงเรื่องการหยุดยิงชั่วคราวและการเปิดเส้นทางอพยพ
นอกจากนี้ทางด้านเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า สถานะชาติเป็นกลางเป็นประเด็นที่กำลังมีการหรือกับฝ่ายยูเครนอย่างจริงจัง ควบคู่กับประเด็นหลักประกันด้านความมั่นคง ซึ่งตามความเห็นของเขามองว่าใกล้บรรลุข้อตกลงเรื่องประเด็นดังกล่าว แต่ก็ยอมรับว่าการเจรจาไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงอย่างนั้นก็ยังพอมีความหวังอยู่บ้างว่าจะสามารถรอมชอมกันได้ นอกจากนี้เขายังย้ำถึงข้อเรียกร้องอื่น ๆ เช่น ความปลอดภัยของประชาชนในภาคตะวันออกของยูเครน การลดอาวุธในยูเครน และสิทธิของคนพูดภาษารัสเซียในยูเครน
ล่าสุดดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ศึกที่ยูเครน ใกล้จบแล้ว” เซเลนสกีพูดออกทีวีซึ่งถ่ายทอดไปถึงรัฐสภาอเมริกัน ขอให้สภาอเมริกันช่วยกำหนดเขตห้ามบิน (no fly zone) ในยูเครน เพราะตอนนี้ รัสเซียคุมน่านฟ้ายูเครนหมดแล้ว
อเมริกาบอกว่า ถ้ากำหนดเขตห้ามบิน เท่ากับก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 กับรัสเซียซึ่งนั่นอเมริกาทำไม่ได้ จึงแค่ส่งขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานและต่อต้านรถถังไปให้แทน
แค่นี้ก็ถือว่าจบแล้วครับยูเครน จบอย่างไม่เป็นทางการ รัสเซียไม่ต้องเร่งเกมหรอกครับ แค่ค่อยๆ บี้กองทัพนีโอนาซีที่เหลือ ดูแลช่วยเหลือเอาใจใส่ประชาชนไป ไม่เพียงยึดยูเครนได้หมด ยังได้ใจประชาชนอีกด้วย ค่าเงินรูเบิ้ลน่าจะไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว ตอนนี้ 108 รูเบิ้ลต่อ 1 ดอลล่าร์ (เมื่อวาน 110 รูเบิ้ล) แถมจะดีขึ้นกว่าเดิมด้วย โดยให้สังเกตปัจจัยต่อไปนี้
1.เมื่อรัสเซียคุมรัฐบาลยูเครนได้หมดและฟอร์มรัฐบาลใหม่ที่เป็นกลาง ตลอดจนแก้รัฐธรรมนูญให้ยูเครนเป็นกลางได้ ส่วนอเมริกาก็ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ปลอบเซเลนสกีที่ยอมเป็นทาสรับใช้ตน เอายูเครนไปขัดแย้งกับรัสเซียตามแผนของตนไป
2.รัสเซียปรับตัวหรือวางระบบการเงินของตนเข้ากับระบบการเงินจีนได้เสร็จสมบูรณ์ ลูกค้าที่สั่งซื้อน้ำมัน ก๊าซ ข้าวสาลีและพืชพันธ์เกษตรอินทรีย์อื่นๆ สามารถโอนเงินให้รัสเซียผ่านระบบใหม่ได้สะดวก
ค่าเงินรูเบิ้ลน่าจะดีขึ้นอีกหน่อยเพราะความเชื่อมั่นในรัสเซียมีเพิ่มขึ้นและความเชื่อถือในดอลล่าร์ต่ำลงกว่าเดิมเพราะบทบาทได้ลดลงแล้วนั่นเอง