ศาสตราจารย์มหาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ชี้ไวรัสสายพันธ์ใหม่ โควิด-19 อาจไม่ได้มีต้นฉบับมาจากเมืองจีน แต่มีอยู่ในธรมชาติทั่วโลกอยู่แล้ว รอปัจจัยเอื้ออำนวยจึงขยายพันธ์เติบโตคุกคามชาวโลกอย่างที่เห็นและเป็นอยู่

3483

ดร.ทอม เจฟเฟอร์สัน (Tom Jefferson) ศาสตราจารย์ศูนย์การแพทย์ตามหลักฐาน (the Centre for Evidence-Based Medicine: CEBM) ประจำมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ของอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 อาจไม่ได้มีต้นกำเนิดที่ประเทศจีน จากการทดลองพบว่ามีอยู่ทุกที่ในน้ำสกปรกและรอปัจจัยแวดล้อมที่เหมาะสม เอื้ออำนวยให้พัฒนาเจริญเติบโตขึ้น

โดยชี้ว่าเชื้อดังกล่าว อาศัยอยู่ในหลายประเทศทั่วโลกนานหลายปีแล้ว ซึ่งเมื่อประสบกับเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ ที่เอื้ออำนวยแก่การเจริญเติบโต จึงทำให้เชื้อชนิดนี้แพร่ระบาดขึ้น พร้อมอ้างอิงว่า ก่อนหน้านี้ในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ สเปน,อิตาลี และ บราซิล ต่างพบเชื้อไวรัสดังกล่าวในตัวอย่างน้ำเสีย ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อน

ก่อนที่ทั่วโลกจะพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศจีน เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้นานาประเทศ ร่วมกับสืบสวนหาสาเหตุว่าทำไมเชื้อโควิด-19 ถึงพบเจอได้บ่อยในโรงงานผลิตอาหารและโรงฆ่าสัตว์

ดร.เจฟเฟอร์สัน จาก the Centre for Evidence-Based Medicine (CEBM)ได้ทำการวิจัยทดลองเชื้อโรค Zar และ โควิด-2 ในน้ำเน่าเสีย ค้นพบว่าไวรัสโควิดมีมาก่อนทั่วโลกก่อนเดินทางไปถึงเอเซีย มันเป็นเชื้อโรคที่อุบัติขึ้นตามธรรมชาติ และรอเงื่อนไขที่จะส่งเสริมให้มันเติบโตขยายตัว ดร.เจฟเฟอร์สันเริ่มศึกษา การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันใหม่ที่เกิดการติดเชื้อในโรงงานฆ่าสัตว์ และ การติดต่อผ่านบรรจุภัณฑ์ที่หุ้มห่อผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์
“บรรจุภัณฑ์ที่หุ้มห่อเนื้อสัตว์มีอุณหภูมิอยู่ที่ 4% ซึ่งพบว่าเชื้อโรคไวรัสสายพันธ์ใหม่เจริญเติบโตได้ดี” ดร.เจฟเฟอร์สันกล่าวว่าประเด็นนี้น่าสนใจและต้องค้นคว้าหาสาเหตุต่อไป
………………………………………
Cr:sciencefocus, telegraph.co.uk