เก๋าจัด พรรคส้ม! ท่านโรม รีบรุกหนัก ชงกมธ.กฎหมาย เรียก 3ป. สอบปมเอี่ยวขบวนการค้ามนุษย์!

990

มีรายงานเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (25 ก.พ.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดเผยว่า เตรียมเสนอเรื่องค้ามนุษย์เข้าสู่ที่ประชุม กมธ.การกฎหมายฯ เพื่อ ตรวจสอบภายหลังที่ตนอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ

ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ประเด็นการค้ามนุษย์และการลี้ภัยของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ฐานะหัวหน้าชุดทำคดีโรฮีนจา เพราะส่งผลกระทบในแง่ระบบกฎหมายและความเชื่อมั่นของข้าราชการจำนวนมากที่เริ่มรู้สึกว่า การทำดีอาจจะไม่ได้ดี และการทำชั่ว อาจจะไม่ได้ชั่ว

ถ้ากมธ. เห็นด้วยกับสิ่งที่ตนเสนอ จะเป็นขั้นตอนพิจารณาว่าสามารถเชิญใครได้บ้าง โดยบุคคลหลัก ๆ ที่คิดไว้ คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 3.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 4.ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ 5.ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอข้อมูลและพูดคุย ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญเรื่องนี้มากจริง ๆ เพราะเป็นประเด็นใหญ่ และเป็นสิ่งที่แม้จะเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ยังไม่สิ้นสุด

เมื่อถามว่า คาดหวังว่าบุคคลดังกล่าวจะมาตามคำเชิญของ กมธ. หรือไม่ นายรังสิมันต์ ยอมรับว่ายาก แต่เชิญในฐานะผู้บังคับบัญชาหน่วยงานและอยู่ในขอบเขตอำนาจ กมธ. ส่วนบุคคลข้างต้นจะส่งใครมาชี้แจงเป็นอีกประเด็น และเตรียมเสนอ กมธ. ทำหนังสือขอให้รัฐบาลช่วยตรวจสอบสิ่งที่ตนอภิปราย เพราะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายคน หากมีการตรวจสอบต่อไป จะสร้างความมั่นใจและเป็นผลดีกับรัฐบาลในเรื่องการค้ามนุษย์และการลี้ภัยของ พล.ต.ต.ปวีณ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางสำนักข่าว The Truth ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวในระดับสูง เพื่อสอบถามถึง เรื่องเอกสารที่กำลังมีปัญหาของ นายรังสิมันต์ นั้น ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งในเบื้องต้น แหล่งข่าวได้เปิดเผยให้ฟังว่า นายรังสิมันต์กำลังจะถูกแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหา “ล้มล้างการปกครอง” ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ม.49 ยุยงปลุกปั่น กฎประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116

ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลง ตามมาตรา 264 ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง
หรือประทับตราปลอมหรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ครั้งนี้หน่วยงานต่าง ๆ เปิดไฟเขียว ผ่านตลอด ขอแค่รวบรวมหลักฐานได้ครบ นายรังสิมันต์ มีโอกาสเข้าคุกสูง