“บิ๊กตู่” ถกด่วน เรียก “สุพัฒนพงษ์” เข้าพบ หารือปมพลังงาน รับมือสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ!?

880

กลายเป็นปัญหาที่ยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดอย่างไร ระหว่าง 2 ประเทศ รัสเซียและยูเครน ที่ได้มีการทำสงครามเข้าสู่วันที่ 7 แล้ว ท่ามกลางการจับตามองของนานาชาติ หลายประเทศแสดงจุดยืนชัดเจน ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ทั้งในภาคธุรกิจ กีฬา รวมไปถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

และจากที่ประชุมฉุกเฉินของสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) มีการลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 141 ต่อ 5 เสียง เรียกร้องให้รัสเซียยุติการรุกรานยูเครน และถอนกองทัพทั้งหมดออกไปโดยทันทีนั้น
ทั้งนี้การประชุมชาติสมาชิกสหประชาชาติ (ยูเอ็น) 193 ประเทศครั้งนี้ เป็นการเรียกประชุมฉุกเฉินครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2540 ในบรรดาชาติที่เรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังออกจากยูเครน 141 ประเทศนี้ รวมไปถึง “ไทย” และยังมีชาติยักษ์ใหญ่ไปจนถึงชาติที่เป็นเกาะเล็ก ๆ ด้วย

ขณะที่ประเทศที่โหวตคัดค้านมติครั้งนี้ประกอบด้วย 5 ประเทศ นอกจากรัสเซียแล้ว ยังมีเบลารุส คิวบา เกาหลีเหนือ และซีเรีย และมี 35 ประเทศงดออกเสียง นำโดยจีน อินเดีย แอฟริกาใต้ และเวียดนาม

 

แม้ว่ามติดังกล่าวไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่แสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาและความเห็นของชาติสมาชิกยูเอ็นส่วนใหญ่ที่ร่วมประณามรัสเซีย กรณีกระทำการก้าวร้าวรุนแรงต่อยูเครนด้วยท่าทีที่หนักแน่นที่สุด เห็นได้จากข้อเรียกร้องให้รัสเซียถอนกองทัพทั้งหมดออกจากยูเครนโดยทันที


ล่าสุดท่าทีทางฝั่งรัฐบาลไทย ทางด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเข้าปฎิบัติหน้าที่ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล ตามปกติโดยช่วงเช้าวันนี้ ได้เรียกหารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย คณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายประสัณห์ เชื้อพานิช คณะที่ปรึกษานายกฯนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร คณะที่ปรึกษานายกฯ นายธนากร วังบุญคงชนะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและนายพรชัย ฐีระเวชผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โดยคาดการณ์ว่าจะเป็นประเด็นรับมือกับสถานการณ์ด้านพลังงาน หลังจากที่เกิดการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะที่ระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล