แล้ววันนี้ก็มาถึง ดังสายฟ้าฟาดเมื่อรัสเซียประกาศเคลื่อนพล เข้าสู่พื้นที่ขัดแย้งดอนบาส เพื่อปราบกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งที่คุกคามร้ายแรงต่อเนื่อง ลามถึงแผ่นดินรัสเซียติดพรมแดน พร้อมทั้งย้ำว่ารัสเซียไม่ต้องการยึดครองยูเครนแต่อย่างใด ทั้งนี้ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร เป็นไปเพื่อตอบสนองคำเรียกร้องของ 2 รัฐเอกราชที่เพิ่งได้รับการรับรองไปก่อนหน้านี้ แจงจุดมุ่งหมายเพื่อยับยั้งความรุนแรงในการก่ออาชญากรรมล้างเผ่าพันธ์ต่อประชาชนดอนบาส สถานการณ์ในกรุงเคียฟของยูเครน เกิดเสียงระเบิดสนั่นหลายเมือง และทางการได้ประกาศปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินพาณิชย์เข้า
วันที่ 24 ก.พ.2565 สำนักข่าวรัสเซียทุเดย์รายงานว่า ปธน. วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แถลงออกอากาศ ประกาศว่าเขาสั่งให้กองทัพของรัสเซียดำเนินการปฏิบัติการพิเศษทางทหารในภูมิภาคดอนบาส หลังจากผู้นำของสาธารณรัฐโดเนตสก์และลูฮันสก์ได้ขอความช่วยเหลือทางทหารจากมอสโกเพื่อยับยั้งการรุกรานของยูเครนที่เพิ่มขึ้น
ปูตินกล่าวว่า“สถานการณ์ในพื้นที่ ต้องการให้เราดำเนินการอย่างเด็ดขาดและทันที” “ สาธารณรัฐประชาชนดอนบาสฯเรียกร้องรัสเซียเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้ ตามมาตรา 51 ส่วนที่ 7 ของกฎบัตรสหประชาชาติ โดยมี การคว่ำบาตรของสภาสหพันธ์ และตามสนธิสัญญามิตรภาพซึ่งให้สัตยาบันโดยสมัชชาแห่งสหพันธรัฐในการให้ความช่วยเหลือร่วมกันกับโดเนตสก์และลูฮันสก์ ฉันจึงได้ตัดสินใจ ดำเนินการปฏิบัติการพิเศษทางทหารทันที”
ในการปราศรัยต่อสาธารณะ ปธน.รัสเซียกล่าวว่าเขาต้องการทำให้เป็นพื้นที่ปลอดทหารและกำจัดพวกหัวรุนแรงสุดโต่งจากยูเครน
ปูตินย้ำว่า”รัสเซียไม่มีแผนจะครอบครองดินแดนยูเครน” ภายในช่วงเวลาของการกล่าวสุนทรพจน์นั้น มีการรายงานเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศยูเครน โดย CNN, CBC และสื่อของยูเครนจำนวนหนึ่งรายงานเหตุระเบิดในเมืองหลวงเคียฟ
เจ้าหน้าที่รัสเซียอธิบายว่า การเคลื่อนกำลังทหารหน่วยพิเศษเป็น “การดำเนินการรักษาสันติภาพ” ในภูมิภาค
ขณะเดียวกันสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเรื่องด่วนนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียประกาศผ่านโทรทัศน์อย่างไม่มีวี่แววล่วงหน้าในเวลา 06.00 น.วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ตามเวลามอสโก ซึ่งตรงกับเวลา 10.00 น. ของไทยว่า ปธน.ปูตินตัดสินใจเปิดปฏิบัติการทางทหารเพราะต้องการทำให้ยูเครน “ปลอดทหาร” แต่ไม่คิดยึดครอง และเรียกร้องให้ทหารยูเครนยอมวางอาวุธ พร้อมให้คำมั่นว่าทหารยูเครนสามารถออกจากสนามรบได้โดยจะไม่มีอุปสรรคขัดขวาง
ปูตินอ้างเหตุผลสนับสนุนการตัดสินใจของเขาว่าเกิดการก่ออาชญากรรมล้างเผ่าพันธุ์ ในภาคตะวันออกของยูเครน รวมถึงนโยบายก้าวร้าวที่นาโตมีต่อรัสเซีย เขาย้ำว่า”สำหรับสิ่งนี้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ให้การทำให้ยูเครนปลอดทหารและขจัดลัทธิขวาจัดสุดโต่ง” พร้อมให้คำมั่นว่าจะนำพวกที่ก่ออาชญากรรมมากมาย พวกที่รับผิดชอบต่อการคร่าชีวิตพลเรือนดอนบาส รวมถึงพลเมืองรัสเซีย มาขึ้นศาลให้ได้
ก่อนหน้านี้ สหรัฐและผู้นำตะวันตกได้โหมกระพือข่าวว่าจะมีการจู่โจมที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายเดือน โดยอ้างว่ารัสเซียได้รวบรวมกองกำลังใกล้พรมแดนติดกับยูเครนและในเบลารุสที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งความจริงนั้นมอสโกได้ดำเนินการซ้อมรบร่วมกันกับพันธมิตรและได้ประกาศกำหนดการล่วงหน้ามาเป็นปี
รัสเซียปฏิเสธแผนการโจมตีล่วงหน้ามาจนถึงตอนนี้ และคงไว้ซึ่งการปฏิบัติการใน ดอนบาส ซึ่งจะเป็นการป้องกันโดยธรรมชาติ โดยไม่รุกคืบยึดครองยูเครน ดังที่สื่อตะวันตกโหมโฆษณาปลุกปั่น
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯและพันธมิตร ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อสถาบันการเงิน เจ้าหน้าที่ และสมาชิกรัฐสภาของรัสเซียหลายราย หลังจากที่ได้ประกาศยอมรับ 2 รัฐเอกราช ล่าสุดสหรัฐและพันธมิตรได้จัดประชุม เพื่อกำหนดบทลงโทษเพิ่มเติมต่อมอสโกว์แล้ว