การซ้อมรบของรัสเซียที่เบลารุส ทำให้โลกจับตาอย่างระทึกใจ เพราะอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกเร่งโหมกระพือว่ารัสเซียเตรียมก่อสงครามบุกยูเครน ทั้งที่ความจริงเป็นเรื่องตรงกันข้าม เนื่องจากสื่อตะวันตกเสนอข่าวในมุมมองของวอชิงตันฝ่ายเดียว ปูตินน่าจะรู้ล่วงหน้าแล้วว่า ต้องทำอะไรบ้าง เพราะประกาศชัดว่ารัสเซียจะทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ล่าสุดเป็นการระดมกองทัพเรือจากทะเลดำ ทะเลเหนือ-ใต้ เข้าร่วมการซ้อมรบครั้งใหญ่ ในโปรแกรม “กองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์” วันเสาร์ที่ 19 ก.พ.นี้ ขณะที่พันธมิตรร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างเบลารุสก็ประกาศชัดว่า พร้อมเปิดทางติดตั้งขีปนาวุธป้องกันภัยคุกคามจากต่างชาติ
วันที่ 19 ก.พ.2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอย่างพร้อมเพรียงกันถึงการซ้อมรบระหว่างรัสเซียและเบลารุส ท่ามกลางความขัดแย้งในพื้นที่พิพาทดอนบาสกำลังคุกรุ่น หลังจากรัสเซียถอนกำลังทหารและยุทโธปกรณ์จากแนวซ้อมรบใกล้ชายแดนยูเครน
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า กองทัพรัสเซียเตรียมจัดการซ้อมรบครั้งใหญ่ ในวันเสาร์ที่ 19 ก.พ.นี้ “โดยเป็นการฝึกซ้อมตามกำหนดการที่วางแผนไว้ล่วงหน้า” เพื่อประเมินศักยภาพทางทหารในภาพรวม และความพร้อมของทุกเหล่าทัพ
ด้านอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ปธน.แห่งเบลารุสเปิดเผยว่า เบลารุสรับรู้ถึงการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ เป็นรัฐที่ประกาศแยกตัวในภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งถูกกักขังอยู่ในความขัดแย้งกับกองกำลังของเคียฟตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา เขาเน้นย้ำว่าพร้อมจะทำงานร่วมกับรัสเซียอย่างเต็มที่ในกรณีนี้
เขากล่าวย้ำว่า“เราเห็นด้วยในหลักการกับปธน.ปูตินแห่งรัสเซียว่า จะทำอย่างไรเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนรัสเซียและเบลารุส แต่มันจะเป็นการตัดสินใจร่วมกันในด้านการปฏิบัติ”
รัฐบาลรัสเซียยืนกรานว่าไม่มีแผนรุกรานเพื่อนบ้าน เพียงแต่ขอคำรับประกันจากนาโตว่าจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และให้สหรัฐถอนทหารและขีปนาวุธจากยุโรปตะวันออก และกลุ่มประเทศบอลติกติดประเทศรัสเซีย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สื่อรัสเซียรายงานว่า รัสเซียถอนกำลังทหารและรถถังจากชายแดนยูเครนเพิ่มเติม กลับฐานทัพที่แคว้นนิจนีนอฟโกรอด แต่สหรัฐและตะวันตกยังคงโหมกระพือข่าวรัสเซียจะบุกยูเครนไม่เลิกรา ขณะที่เพิกเฉยต่อการปะทะระหว่างกองทหารเคียฟและหน่วยอาสาสมัครโดเนตสก์และลูฮันสก์ พร้อมกับป้ายสีว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของรัสเซีย
ประธานาธิบดีปูติน ซึ่งให้สัมภาษณ์สื่อร่วมกับประธานาธิบดีเบลารุส ได้กล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนและตอกย้ำว่า สถานการณ์ในพื้นที่พิพาทดอนบาสน่าเป็นห่วง ขณะที่ปธน.ลูเชนโกประกาศชัดว่า ประเทศของเขาพร้อมให้รัสเซียติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์
กองทัพร่วมระหว่างรัสเซียและเบลารุสจะทำการยิงทดสอบขีปนาวุธในวันเสาร์ที่ 19 ก.พ.นี้ โดยกระทรวงกลาโหมแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า ปธน.ปูตินจะมากำกับดูแล “การซ้อมรบตามแผนของกองกำลังป้องกันทางยุทธศาสตร์” จะมีการยิงทดสอบขีปนาวุธและมิสไซล์ครูซ
คำแถลงเผยอีกว่า กองทัพอากาศ, หน่วยทหารจากมณฑลทหารภาคใต้ รวมถึงกองเรือภาคเหนือและทะเลดำจะเข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ด้วย
การซ้อมรบของรัสเซียในเบลารุสเกี่ยวข้องกับกองกำลังหลายพันนายและระบบอาวุธที่ซับซ้อน เช่น มิซไซล์ครูซหรือขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ S-400, ระบบป้องกันภัยทางอากาศแพนเทียร์ (Pantir) และเครื่องบินขับไล่เอสยู35 (Su-35)
คำแถลงกล่าวว่า “การฝึกซ้อมจะเป็นไปเพื่อ ตรวจสอบความพร้อมของผู้บัญชาการทหารและลูกเรือของระบบขีปนาวุธ เรือรบ และเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ เพื่อบรรลุภารกิจของพวกเขา และในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์และกองกำลังตามแบบแผน”
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่า เรือพิฆาตทั้ง 6 ลำมาถึงท่าเรือเซวาสโทพอลในแหลมไครเมีย พวกเขาเดินทางเป็นระยะทาง 13,000 กิโลเมตรจากทะเลบอลติกเพื่อเริ่มต้นสิ่งที่เจ้าหน้าที่อธิบายว่าเป็นการซ้อมรบทางทะเลของรัสเซียและพันธมิตรเบลารุส
เจ้าหน้าที่ในมอสโกและมินสค์กล่าวว่า กองทหารรัสเซียจะถอนกำลังออกจากเบลารุสหลังจากการซ้อมรบสิ้นสุดวันที่ 20 กุมภาพันธ์ แต่เจ้าหน้าที่ตะวันตกยังคงหวั่นว่าพวกเขาจะนำไปใช้ในการบุกยูเครน