ใหญ่แค่ไหนไม่ง้อ!!ชาวเน็ตจีนทัวร์ลงสตาร์บัคส์ หลังไล่ตำรวจกินข้าวหน้าร้านกลัวเสียภาพพจน์

1533

ปรากฏการณ์แสดงพลังชาวเน็ตจีน มีให้เห็นบ่อยในกรณีอ่อนไหวที่เกี่ยวกับความรู้สึกชาตินิยม ล่าสุดเกิดกรณีชาวเน็ตจีนแห่ทัวร์ลงร้านสตาร์บัคส์ (Starbucks) ร้านกาแฟอเมริกันดังในนครฉงชิ่ง(Chongqing)หลังพนักงงานไล่ตำรวจท้องถิ่นที่กำลังกินข้าวอยู่ด้านหน้าประตูร้าน เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของร้าน ทำให้กระแสรักชาติของชาวเน็ตจีนเดือดพุ่ง ลามถึงขั้นเสนอให้คว่ำบาตร แต่ก็มีการเตือนกันให้วิจารณ์พอประมาณก่อนลุกลาม

เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2565 สำนักข่าวรอยเตอร์และโกลบัลไทมส์ รายงานว่า ชาวเน็ตจีนแห่วิจารณ์หนักร้านสตาร์บัคส์ (Starbucks) ร้านกาแฟอเมริกันดังในนครฉงชิ่ง หลังไล่ตำรวจท้องถิ่นที่กำลังกินข้าวอยู่หน้าประตูร้าน เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของร้าน

ด้านร้านกาแฟดังได้ออกแถลงการณ์ขออภัยบนบัญชีเว่ยปั๋ว สำหรับความเข้าใจผิดในการสื่อสาร แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าร้านได้ขับไล่ตำรวจออกจากหน้าร้าน

“ประมาณ 17.00 น. ของวันอาทิตย์ มีตำรวจ 4 นายมาที่ร้านและพวกเขากำลังรับประทานอาหารนอกร้าน  ซึ่งต่อมามีลูกค้าบางคนแจ้งว่าพวกเขาต้องการทานข้างนอกร้าน พนักงานจึงไปเจรจาเรื่องที่นั่งกับตำรวจ แต่มีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมทำให้เกิดความเข้าใจผิด”

ร้านกาแฟดังระบุว่าว่า บริษัทฯ กำลังตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด และหากเป็นเรื่องจริง พนักงานที่เกี่ยวข้องจะถูก “ลงโทษ” พร้อมเสริมว่า ทางบริษัทไม่มีกฎเกณฑ์ที่ห้ามผู้คนไม่ให้รับประทานอาหารที่ด้านหน้าของร้านแต่อย่างใด

เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดียของจีนอย่างรวดเร็ว และทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากไม่พอใจและเห็นว่าแบรนด์ของสหรัฐฯเย่อหยิ่งเกินไป ในขณะที่บางคนเรียกร้องให้คว่ำบาตรกาแฟร้านดัง

บางความเห็นกล่าวว่า “ตำรวจกินข้าวจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสตาร์บัคส์ได้อย่างไร ในทางกลับกัน การไล่ตำรวจกลับส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของสตาร์บัคส์ต่างหาก” หรือ “คนจีนไม่ดื่มกาแฟสตาร์บัคส์ก็ไม่เป็นไร แต่ประเทศจีนไม่มีตำรวจไม่ได้” เป็นต้น

ครั้งนี้สตาร์บัคส์เผชิญกับความขัดแย้งครั้งที่สองในจีน ในรอบสองเดือนเกี่ยวกับสิ่งที่ยักษ์ใหญ่ด้านกาแฟอธิบายว่าเป็น “ความเข้าใจผิด” ระหว่างเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แต่คำพูดของเหตุการณ์นั้นแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว หัวข้อข่าวดังกล่าวกลายเป็นหัวข้อที่กำลังได้รับความนิยมบนเว่ยปั๋ว (Weibo) แพลตฟอร์มคล้ายยอดฮิต ของจีนตลอดสัปดาห์นี้ โดยมียอดวิวมากกว่า 200 ล้านครั้ง 

ชาวเน็ตระบุว่า“สตาร์บัคส์ โปรดเอาความเย่อหยิ่งของคุณกลับคืนไป” หนังสือพิมพ์ People’s Daily ของจีน เขียนวิจารณ์เหตุการณ์ดังกล่าวลงในเว่ยปั๋วว่า “ใครให้ สตาร์บัคมีอำนาจขับไล่ตำรวจขณะรับประทานอาหารเย็นที่หน้าร้านโดยพลการ”

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เกิดกรณีมีคนร้องเรียนพบว่าร้านค้าสาขาของสตาร์บัค 2 แห่งได้ใช้ส่วนผสมที่หมดอายุแล้ว ครั้งนั้นส่งผลให้สตาร์บัคโดนปรับฐานละเมิดกฎรักษาความปลอดภัยด้านอาหารจำนวน  1.36 ล้านหยวนหรือ 210,000 ดอลลาร์สหรัฐ 

บริษัทเล็ก ๆ สองสามแห่งประกาศลงใน Douyin ซึ่งเทียบเท่ากับ TikTok ในจีน ว่าพวกเขาจะ “คว่ำบาตร” Starbucks โดยห้ามพนักงานจัดการประชุมหรือซื้อเครื่องดื่มจากร้านค้าในร้านกาแฟ

อย่างไรก็ตาม หู ซีจิน(Hu Xijin) นักวิจารณ์ที่มีผลงานมากมายในจีน อดีตบรรณาธิการบริหารของหนังสือพิมพ์โกลบัลไทมส์ ได้เรียกร้องให้ผู้ใช้ Weibo มองว่าเหตุการณ์นี้เป็นแค่อุบัติเหตุอย่างหนึ่ง  พร้อมเสริมว่าสถานะของ Starbucks เป็นแบรนด์ต่างประเทศ ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ไปมากกว่านี้

เขากล่าวว่า“จีนเป็นประเทศที่เปิดกว้างต่อโลก การติดป้ายข้อผิดพลาดว่าเป็นความเย่อหยิ่งไม่เอื้อต่อสภาพแวดล้อมของการเปิดกว้างในการทำธุรกิจกับพันธมิตรทางสากล”

พายุแห่งความโกรธครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนสำหรับธุรกิจสหรัฐในจีน โดยเฉพาะข่าวคราวความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนที่ลุกลาม จากสงครามการค้า ก้าวสู่สภาวะคาบเกี่ยวความมั่นคงทางทหารในกรณีไต้หวัน

จีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสตาร์บัคส์นอกประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน ร้านกาแฟดังมีร้านค้าสาขามากกว่า 5,400 แห่งในกว่า 200 เมืองในจีน  เครือบริษัทมีพนักงานมากกว่า 66,000 คนในประเทศ และทำเงินได้ 897 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 3 เดือนสิ้นสุด ณ สิ้นเดือนมกราคม ตามรายงานผลประกอบการล่าสุด