จีนปลื้มสุดๆ!!กู่ อ้ายหลิงลูกครึ่งมะกัน-จีน คว้าเหรียญทองสกีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ เธอจะเป็นตำนาน

1412

ไอลีน กู่หรือชื่อจีนว่า กู่ อ้ายหลิง สาว18 ลูกครึ่งอเมริกัน-จีน สร้างความคลั่งไคล้หลงใหลแก่ชาวจีนอย่างมาก หลังจากสามารถคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ เป็นนักสกีหญิงของจีนคนแรกที่ทำสำเร็จ เธอจะเป็นตำนานข้ามวัฒนธรรมสำหรับทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา

วันที่ 9 ก.พ.2565 เสียงปรบมือของประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) โธมัส บาค และเสียงเชียร์ของผู้ชมที่โบกธง “กู่ อ้ายหลิง:ไอลีน”(Gu Ailing: Eileen) นักสกีฟรีสไตล์ลูกครึ่งอเมริกัน-จีน วัย 18 ปี ซึ่งมีท่าทางตื่นเต้นอย่างมาก ที่คว้าเหรียญทองของแอร์ฟรีสกีหญิงรอบชิงชนะเลิศ โอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง

ชัยชนะไม่เพียงแต่นำทีมจีนไปสู่จุดสูงสุดของตารางเหรียญโอลิมปิกในปัจจุบัน โดยประเทศเจ้าภาพได้รับสามเหรียญทอง แต่ยังเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์เนื่องจาก กู่ เป็นผู้ชนะเลิศเหรียญทองโอลิมปิกหญิงคนแรกของจีนในกีฬาบนหิมะ

กู่ กล่าวให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน ช่วงเวลาเช่นนี้ทำให้ทุกสิ่งมีค่ามาก” และเธอขอบคุณผู้ชมทางบ้านสำหรับการสนับสนุนเธออย่างมาก

กู่นั้นเล่นได้คงที่และไร้ข้อผิดพลาดใน2รันแรกของเธอ ทำให้เธอได้คะแนนที่ดี

ในการแข่งรอบชิงชนะเลิศของเธอ ทำให้ผู้ชมชาวจีนแทบหยุดหายใจ Gu ได้จุกไม้ก๊อกคู่ 1620 ด้วยความยากลำบากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เพื่อยึดตำแหน่งแรก แซงหน้าแมธทิลเด เกรมัด (Mathilde Gremaud) จากสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้่ที่ 3 และเทซซ์ เลอโดซ์(Tess Ledeux) ของฝรั่งเศสที่ได้รับเหรียญเงิน 

บาค ประธานไอโอซี ผู้ซึ่งได้เห็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์กล่าวว่า “มันเป็นการแข่งขันที่น่าทึ่งที่ได้เห็นการแสดงในระดับนี้” “ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะมีอะไรอยู่ในหัวเธอก่อนที่จะทำสำเร็จ”

กู่ยังได้รับการสนับสนุนให้คว้าเหรียญทอง ในการแข่งขันอีกสองประเภท คือฟรีสกีสโลปสไตล์หญิง และการแข่งขันสกีฮาล์ฟไปป์สกีหญิงฟรีสกี้

นักวิจารณ์กีฬาในปักกิ่งกล่าวว่า “นักกีฬาชั้นยอดทุกคนพยายามที่จะทำระดับความยากสูงขึ้น และมีเพียงกู่เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ นั่นคือเหตุผลที่เธอคือแชมป์  เหรียญทองคำนี้จะสร้างข้อได้เปรียบทางจิตวิทยาสำหรับกู่ ในการแข่งขันอีก 2 ประเภท”

ไอลีน กู่ได้รับสมญานามจากชาวเน็ตจีนว่า “เจ้าหญิงหิมะ” เหรียญทองของเธอ เป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวเน็ตจีนบนเว่ยป๋อ(Sina Weibo) ซึ่งการอภิปรายเกี่ยวกับเธอ ระเบิดขึ้นด้วยจำนวนการดูมากกว่า 670 ล้านครั้งและความคิดเห็นนับล้านในหนึ่งชั่วโมงหลังจากชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของเธอ

ไอลีน กู่เกิดที่ ซาน ฟรานซิสโก เนื่องจากมีพ่อเป็นคนอเมริกัน ส่วนแม่คือ กู่ เยี่ยน หรือ Gu Yan เป็นสาวจีน โดยผู้เป็นแม่นั้นย้ายมาตอนเป็นนักศึกษาวัยเพียงแค่ 20 ปีและเธอหลงใหลกีฬาสกีเป็นชีวิตจิตใจก่อนที่จะถ่ายทอดสิ่งนี้จากสายเลือดสู่ผู้ที่เป็นลูกสาวให้เดินตามรอยได้สำเร็จในที่สุด

แน่นอนว่าจีนกับสหรัฐอเมริกาคือ 2 มหาอำนาจที่เป็นคู่แข่งและขัดแย้งกันมาโดยตลอดสิ่งนี้เองทำให้ ไอลีน ตัดสินใจยากไม่น้อยว่าจะเลือกธงชาติไหนมาประดับที่อก ซึ่งในที่สุดเธอก็เล่นให้กับจีนตามรอยแม่ของเธอพร้อมกับอธิบายเหตุผลเอาไว้ว่า “มันคือโอกาสที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับหนุ่มสาวหลายล้านคนในประเทศที่แม่ฉันเกิดขึ้นมา ที่สำคัญเลยมันคือ โอลิมปิก หนนี้แข่งกันที่จีนอีกด้วย ซึ่งก็จะได้ช่วยส่งเสริมกีฬาที่ฉันรักอีกด้วย”

 

ในปี 2564 เธอเซ็นสัญญากับแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศประมาณ 30 แบรนด์ และเธอมีรายได้มากกว่า 100 ล้านหยวน (15.7 ล้านดอลลาร์)  

สื่อในสหรัฐฯ บางแห่งโจมตีกู่ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีที่เปราะบางของสหรัฐฯ CNN เน้นว่า กูถือเป็น “คนอเมริกันอย่างปฏิเสธไม่ได้” ในขณะที่สื่ออย่าง Fox กล่าวว่า กู่เป็นคน”เนรคุณ” และ “น่าอับอาย”แลกกับเงินและหนังสือเดินทางของสหรัฐฯ 

การเลือกสัญชาติจีนเพื่อเข้าแข่งขันกีฬาสกีนั้น  ไอลีน กู่ให้สัมภาษณ์อย่างเปิดเผยมาตลอดว่า ต้องการสะท้อนภาพความจริงในยุคสมัย ที่เชื้อชาติต่างๆในโลกนี้มีความหลากหลายและผสมผสาน ตัวเธอนั้นให้สัมภาษณ์ย้ำว่า “ตั้งแต่ฉันยังเด็ก ฉันพูดเสมอว่า เมื่ออยู่ในสหรัฐอเมริกา ฉันเป็นคนอเมริกัน เมื่อฉันอยู่ที่จีน ฉันเป็นคนจีน”  “ฉันภูมิใจในมรดกของฉัน และภูมิใจกับการเลี้ยงดูแบบอเมริกันของฉันเท่าเทียมกัน” นั่นหมายถึงเธอรักทั้งสองประเทศ

กู่ต้องการปูทางให้กับนักสกีหญิงรุ่นต่อไปของจีน และทำลายกำแพงการเหยียดเชื้อชาติที่แพร่อยู่ในสังคมตะวันตกและในบ้านเกิดเธอที่สหรัฐอเมริกา

หลี่ไห่ตง ศาสตราจารย์แห่งสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยการต่างประเทศจีนกล่าวว่า “สังคมจีนเปิดกว้างพอที่จะเคารพทางเลือกของนักกีฬาแต่ละคน มีนักกีฬาหลายคนที่พูดภาษาถิ่นตะวันออกเฉียงเหนือของจีน แต่ไม่ได้เป็นตัวแทนของทีมจีนในโอลิมปิก แต่เราก็หวังว่านักกีฬาทุกคนจะประสบความสำเร็จ” 

หลี่กล่าวว่ากีฬาไม่ควรเป็นเรื่องการเมืองหรือเป็นอุดมการณ์ แต่ควรมุ่งส่งเสริมความเข้าใจ ส่งเสริมความก้าวหน้าของกีฬา และตระหนักถึงศักยภาพของนักกีฬา   

“ความสำเร็จของกู่ ไม่ควรนำมาประกอบกับระบบและสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ เท่านั้น” หลี่กล่าว “เราควรคำนึงถึงธรรมชาติของกีฬาในระดับสากลและสภาพแวดล้อมที่จีนมอบให้เธอด้วย”