อดีต อมธ.ฝ่ายยุทธศาสตร์ ฉะเดือด ม็อบครั้งนี้ไร้จุดหมายที่สุด แค่ออกมาสนองความเกลียดชัง

11630

ม็อบวิจารณ์กันเอง!! อดีต อมธ.ฝ่ายยุทธศาสตร์ ฉะเดือด ม็อบครั้งนี้ไร้จุดหมายที่สุด แค่ออกมาสนองความเกลียดชัง!?!

อย่างที่ทราบกันดีว่าในขณะนี้ได้มีการจัดม็อบ ในหลายจุดทั่วบริเวณ กทม. ซึ่งเป็นม็อบแบบไม่ค้างคืน แต่จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เริ่มเกินการตั้งคำถามในแนวทางว่าต้องการอะไรกันแน่ เพราะเรื่องที่เรียกร้องเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เกิดความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ท้าทายอำนาจกฎหมายและรัฐขึ้นเรื่อยๆ เหมือนแค่ออกมาสนองความสะใจเสียมากกว่า

ล่าสุดได้มีสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ Art Nonthawat ซึ่งเป็น อดีตรองอุปนายกฝ่ายยุทธศาสตร์และการเมือง ที่ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ได้ออกมาพูดถึงแนวทางม็อบที่ไร้ซึ่งจุดหมาย และไม่มีประโยชน์ในการจัดม็อบในครั้งนี้เลย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข้อเสียของม็อบที่ไม่มีแกนนำและไม่ได้establish ที่เด่นชัดที่สุดคือเหมือนเราแค่ออกมาแสดงความไม่พอใจ แค่อยากปลุกระดม อยากด่านายก อยากวิพากษ์ตัวกษัตริย์ แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

แต่messageที่สื่อออกไปมันขาดเอกภาพมาก พอแกนนำหายไป ใครอยากพูดอะไรก็พูด ซึ่งไอ้ที่อยากพูดอะไรก็พูดนี่ไม่ใช่ว่าพูดประเด็นปัญหานะ แต่มันคือด่ากันล้วนๆ

ซึ่งมันเป็นปัญหามาตั้งแต่วันพฤหัสที่ราชประสงค์แล้วที่ม็อบแทบไม่ได้contributeให้agendaที่เคยมีเท่าไหร่เลย ยิ่งวันนี้ยิ่งเห็นได้ชัด จัดม็อบแยก3ที่ เนื้อหานี่แทบไม่เหมือนกันเลย เหมือนแค่ออกมาพูดในสิ่งที่คนจับไมค์อยากจะระบาย อยากด่าใครก็ด่า ไม่ว่าจะรัฐบาลหรือสถาบันกษัตริย์ก็เถอะ

แต่agendaที่ควรเป็นหลักจริงๆไม่สามารถconveyออกไปได้เลย ไม่รู้ว่าตอนนี้3เป้าหมายหลักที่สู้ๆกันมานี่ยังตีความตรงกันอยู่รึเปล่า

แล้วนี่มันยิ่งส่งสัญญาณออกไปยังม็อบในต่างจังหวัด คุณลองไปดูสิว่าที่ตจว.เค้าพูดอะไรกันบ้าง ไม่เหมือนagendaหลักในกรุงเทพเลยซักนิด บางที่นี่แค่ออกมาด่าไอ้ตู่ ชู3นิ้ว ไม่ได้แตะสถาบันกษัตริย์ในแง่โครงสร้างเลยด้วยซ้ำ ละคือด่าก็คือขอแค่ได้ด่าเอาสะใจ

ไม่มีใครพูดถึงโครงสร้างของปัญหาเลย ซึ่งไม่ใช่ความผิดของคนตจว.นะ แต่เพราะในกรุงเทพที่เป็นฐานหลักมันไม่สามารถสร้างความเข้าใจให้พวกเดียวกันเองได้ว่าอะไรคือปัญหาของการเมืองไทยจริงๆต่างหาก

แบบนี้ในระยะยาวมันจะกลายเป็นม็อบที่ขาดเอกภาพแล้วแนวร่วมก็จะค่อยๆลดลงไปในที่สุด ไม่ต้องกลัวจะแพ้รัฐบาลกับสถาบันหรอก กลัวพวกเดียวกันเองเดินไปคนละทางก่อนจะดีกว่า

Edit: มีหลายคนบอกว่า ก็ตอนนี้ทุกคนเข้าใจหมดแล้วว่าเราทำอะไรอยู่ ไม่เห็นต้องพูดก็ไม่เป็นไร ยืนมองหน้ากันก็รู้แล้วว่าเราทำอะไร

แน่ใจเหรอว่าเราเข้าใจตรงกัน แน่ใจเหรอว่าทุกคนเข้าใจว่าปัญหาเชิงโครงสร้างของการเมืองคืออะไร ถ้าทุกคนเข้าใจ มันจะไม่เกิดภาพที่ผู้ปราศรัยแต่ละคนในม็อบทั่วประเทศพูดกันไปคนละทางแบบนี้หรอกครับ แล้วถ้าจะบอกว่าทุกคนเข้าใจหมดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเนื้อหากันอีก งั้นเรายุบม็อบมั้ยครับ?

แล้วถ้าแค่อยากด่าอยากระบาย ยืนด่ารัฐบาลละLiveอยู่บ้านก็ได้ จะมีม็อบไว้ทำไมอีกถ้าเราจะไม่สื่อสารข้อเรียกร้องที่ชัดเจนอีกแล้ว กีดขวางทางจราจรเปล่าๆอะถ้างั้น

แล้วขอยืนยันว่าการพูดแตกประเด็นนั้นทำได้และควรทำ เพราะเราชุมนุมกันแทบทุกวัน จะให้พูดอยู่แค่สามข้อ คนฟังมันเบื่ออยู่แล้ว แต่เรื่องที่จะแตกประเด็น มันก็ควรจะอยู่ใต้ธงของประเด็นปัญหาที่เราเรียกร้อง ไม่ใช่แค่ขึ้นมาด่าๆๆๆ ละก็ลงเวที

Disclaimer: เราไม่ได้ต้องการผลักใคร หรือต้องการให้มีแกนนำ เพราะมันจะโดนจับก็โดนแกนนำก่อนแน่ๆ และเราก็ไม่โทษคนที่โกรธ ทั้งผู้ชุมนุมและผู้ปราศรัยด้วย เพราะเราก็โกรธ และแน่นอน เราไม่ได้อยู่แค่หน้าจอพิมพ์สเตตัสเอาเท่ๆ เราก็ไปม็อบมาตลอด แต่เราต้องการให้ใครก็ตามที่จะมาพูด คุณจะโกรธ จะบิ้วคนอื่นยังไงก็ได้ แต่ต้องยึดที่เป้าหมายที่เรามีร่วมกัน

เพราะนี่คือการทำงานทางความคิด เผยแพร่ไอเดียให้คนอื่นเชื่อ ซึ่งการออกมายืนด่าหรืออ่านกลอนอย่างเดียว มันไม่ทำให้ใครซื้อไอเดียเราได้หรอกครับ ลองคิดดูว่าถ้าผู้ปราศรัยทุกคนโกรธ แล้วขึ้นเวทีไปด่าไอ้เหี้ยนั่นไอ้เหี้ยนี่ แล้ววันนั้นก็ผ่านไป ผู้ชุมนุมได้อะไร? ม็อบได้อะไร? ได้ระบายความโกรธแล้วยังไงต่อ

เราจะระบายความโกรธกันตลอดไปเลยใช่มั้ย แล้วทิ้งคนที่เค้ามาม็อบเพราะอยากมาสู้เพื่อข้อเรียกร้องไปเหรอ? ถ้าไม่ใช่ ครั้งต่อไปก็แค่ปรับตรงนี้ แค่นั้นเอง