“ปิยบุตร” ทนไม่ได้ 2 หลังพรรคการเมือง ปราศรัยชูความ “จงรักภักดี” โยงแรงพาดพิงสถาบันฯ

1220

ใกล้เข้ามาถึงทุกทีกับการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่-จตุจักร โดยแต่ละพรรคมีการปราศรัยดุเดือด ชูนโยบายและแนวทางการทำงานของพรรคตนเองแบบไม่มีใครยอมใคร

โดยทางก้าวไกลก็ปราศรัยอย่างดุเดือดว่า อย่าเลือกด้วยความกลัว หรือกลัวก้าวไกลจะไม่ชนะขาด แต่ควรคิดถึงว่าก้าวไกลจะเข้าไปทำประโยชน์ในสภาให้พี่น้องได้ รวมถึงมีการกล่าวว่าพร้อมต่อสู้กับเผด็จการและความอยุติธรรม ขณะที่ฝั่งพรรคเพื่อไทย ปราศรัยเน้นการปราศรัยถึงนโยบายของพรรคสำหรับคนกรุงเทพฯ และคนทั้งประเทศ รวมถึงวิกฤตทางการเมือง และเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ พร้อมชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล


ทั้งนี้อีกทั้ง 2 พรรคที่เหลือ ด้านพรรคกล้า ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยว่าเราไม่เห็นด้วยกับการนำเรื่องของสถาบันฯ เป็นเรื่องยุทธศาสตร์การเมืองไม่ว่าจะโดยฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวา ทั้งนี้ยอมรับว่าขบวนการล้มสถาบันฯ มีอยู่จริง เราจึงต้องต่อสู้และยึดมั่นปกป้องสถาบันฯ ให้มาก และประกาศพร้อมหนุน “บิ๊กตู่” และพรรคไทยภักดี ก็ได้ชูนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมกับปกป้องสถาบันฯ อย่างสุดแรงกล้า จนได้เสียงตอบรับจากประชาชนเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะในโลกโซเชียลมองว่า ขณะนี้ทั้งเพื่อไทยและก้าวไกล แข่งกัน ฟาดฟันกันเอง ผลัดกันแซะไปมา เพราะเคยบาดหมางกัน รวมทั้งวิจารณ์รัฐบาล แต่พรรคกล้ากับไทยภักดี ต่างไม่พาดพิงใคร มีจุดมุ่งหมายเพื่อประชาชน และพร้อมปกป้องสถาบันฯ จากกลุ่มที่เจตนาไม่ดีต่อสถาบันหลักของชาติ

ล่าสุดนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้ออกมาเคลื่อนไหว ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ ระบุว่า ในการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเมื่อวาน มีสองพรรคปราศรัยเรื่องจงรักภักดร ผมเห็นว่าจงรักภักดีที่ถูกต้องที่สุด คือ สถาบันกษัตริย์ต้องไม่มีพระราชอำนาจในทางการเมือง ในทางการบริหารราชการ ในทางเศรษฐกิจเลย ทั้งในทางลับและในทางแจ้ง เพื่อดำรงสถานะความเป็นกลาง และไม่ต้องรับผิดใด

 

หากให้สถาบันกษัตริย์มีพระราชอำนาจเหล่านี้ ก็เป็นธรรมดาที่จะถูกตั้งคำถาม ถูกวิจารณ์ ถูกตรวจสอบ ต้องรับผิดชอบ เพราะในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีวันปล่อยให้ใครมีอำนาจสาธารณะแล้วไม่ต้องรับผิดชอบ แล้วเราต้องการให้กษัตริย์ต้องรับผิดหรือ? ถ้าไม่ต้องการ ก็ต้องไม่ให้มีพระราชอำนาจเหล่านี้ การรักในหลวง การจงรักภักดี ที่ถูกต้อง คือ ต้อง “กล้า” พูดอย่างตรงไปตรงมาถึงประเด็นปัญหาเรื่องพระราชอำนาจและบทบาทเหล่านี้ หากแก้ไขเรื่องเหล่านี้ได้ พระมหากษัตริย์ก็จะมีสถานะเป็นที่เคารพสักการะตามที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ วิธีเช่นนี้ จะทำให้สถาบันกษัตริย์ดำรงอยู่อย่างมั่นคง

ทั้งนี้ก็ได้มีคอมเม้นต์ที่เห็นด้วยกับนายปิยบุตร และเห็นแย้ง โดยตอบกลับนายปิยบุตรด้วยว่า สถาบันฯท่านอยู่เหนือการเมืองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะพฤตินัยหรือ กม.รธน.ท่านไม่ได้อำนาจสั่งการ ให้รัฐฯต้องทำอะไรในการบริหารราชการแผ่นดินเลย..อย่ามโนจนเกิดอาการหลอนหลังอาหารสามเวลา.. เอาเวลาที่ไร้สาระพวกนี้ ไม่แนะนำให้สาวกอ่านหนังสือให้มาก ๆ ดูหนังให้เยอะแบบเดิมจะดีกว่า , พูดง่าย ๆ คือจะให้เป็นหัวหลักหัวตอใช่มั้ย จะให้นักการเมืองใหญ่ที่สุดใช่มั้ย นักการเมืองทำอะไรไม่ดีจะไม่ให้เข้าไปยุ่งใช่มั้ย มันไม่ใช่ละที่บอกมาเนี่ย ยังไงก็ไม่ใช่