NATO กำลังพัฒนาขีดความสามารถในการทำลายล้างการโจมตีด้วยนิวเคลียร์กับรัสเซีย ซึ่งรวมถึงสมาชิกนาโตที่ไม่มีขีปนาวุธมาก่อนกำลังได้รับการฝึกและเตรียมติดตั้งขีปนาวุธพิสัยใกล้ ด้วยข้ออ้างเตรียมรับมือรัสเซียบุกยูเครน ฝ่ายรัสเซียทันเกมเพราะเดินหน้าเจรจาพันธมิตรที่ถูกสหรัฐรังแกมาหลายปีอย่างคิวบา เวเนซูเอลาและนิคารากัว ปูตินคอนเฟิร์มเองว่าทั้งสามประเทศยินดีร่วมมือรัสเซียซ้อมรบและติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง ทำสหรัฐ-นาโตเต้น เพราะพันธมิตรนาโตหลายประเทศเริ่มแสดงท่าทีถอยดีกว่าไม่อยากรบกับรัสเซีย จนบอริส จอห์นสันแห่งอังกฤษต้องออกมาโวยวายในรัฐสภาอ้างว่า อังกฤษจำเป็นต้องออกหน้าเป็นผู้นำในภาระกิจต่อต้านรัสเซียร่วมกับสหรัฐ
วันที่ 26 ม.ค.2565 สำนักข่าวทาซซ์( TASS)และรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า วลาดิมีร์ เยอร์มาคอฟ(Vladimir Yermakov)ผู้อำนวยการกรมควบคุมอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธในกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังอยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงขีดความสามารถด้านปรมาณูในยุโรป และได้ติดตั้งขีปนาวุธในดินแดนหลายแห่งในประเทศสมาชิกอื่น ๆ
เยอร์มาคอฟกล่าวว่า “ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญมีอยู่ 5 ประเทศที่ไม่ใช่ NATO ที่สหรัฐเข้าไปติดตั้งระเบิดนิวเคลียร์ B61 ของอเมริกาประมาณ 200 ลูกนอกจากนี้ยังมีโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งานอาวุธเหล่านี้ในการปฏิบัติงาน ซึ่งสามารถยิงถึงดินแดนรัสเซียและโจมตีสถานที่ต่างๆ ได้มากมาย รวมถึงสถานที่ทางยุทธศาสตร์ด้วย”
เขากล่าวอีกว่าการถอนอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ออกจากยุโรปเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของมอสโกว์ในการเจรจาความมั่นคงที่กำลังดำเนินอยู่ แต่สหรัฐปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง ซ้ำยังกำชับไม่ให้เปิดเผยเอกสารตอบกลับรัสเซียอย่างเป็นทางการแต่สรุปเนื้อหาคำตอบคือ ไม่หยุดเดินหน้าขยายนิวเคลียร์ปิดล้อมรัสเซียนั่นเอง
เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียแสดงความผิดหวังต่อการตอบรับข้อเสนอของสหรัฐฯ โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะหยุดยั้งการขยายตัวของ NATO ในยุโรปตะวันออก “ประเด็นหลักคือปฏิเสธจุดยืนที่ชัดเจนของเราในเรื่องไม่ยอมรับในการขยายสมาชิกนาโตเพิ่มไปทางตะวันออก และการติดตั้งอาวุธทำลายล้างสูงที่อาจคุกคามอาณาเขตของสหพันธรัฐรัสเซีย”
อันที่จริงผลลัพท์ที่สหรัฐตอบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นเรื่องที่รัสเซียอาจคาดไว้แล้ว การเคลื่อนไหวทางทหารจึงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง มีการซ้อมรบของรัสเซียและพันธมิตรทุกน่านน้ำ และมีการเจรจากับพันธมิตรรัสเซียที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรกลั่นแกล้งมานานนับทศวรรษอย่าง คิวบา เวเนซูเอลา และนิคารากัว
วันนี้ผลออกมาชัดเจนว่าทั้งสามประเทศไฟเขียว เรื่องอนุญาตรัสเซียเข้าร่วมฝึกซ้อมรบและติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางในบ้าน ทำอเมริกาอยู่ไม่เป็นสุขแน่ ออกอาการหนาวๆร้อนๆ เมื่อปูตินบรรลุข้อตกลงความร่วมมือครั้งใหม่กับประเทศที่ตัวเองทำเขาไว้เยอะ
รัฐมนตรีต่างประเทศเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ประกาศชัดว่าปธน.วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ตกลงกับผู้นำของคิวบา เวเนซุเอลา และนิคารากัว เพื่อพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ รวมถึงการยกระดับความร่วมมือทางทหาร
ลาฟรอฟรายงานต่อสภาดูมา- รัฐสภาของรัสเซีย – ในวันพุธที่ผ่านมาว่า “ปธน.ปูตินได้สนทนาทางโทรศัพท์เมื่อเร็วๆ นี้กับเพื่อนร่วมงานของเขาจากรัฐบาลทั้งสามนี้ ซึ่งเราสนิทสนมและเป็นมิตรต่อกันมาก พวกเขาตกลงที่จะหาวิธีเพิ่มเติมในการกระชับความเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ของเราในทุกด้าน โดยไม่มีข้อยกเว้น รวมถึงการทหารและเทคนิคทางการทหาร” “สำหรับอนาคตอันใกล้นี้ เรากำลังนัดการประชุมเป็นประจำของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง”
ก่อนหน้านี้สหรัฐเคยยิงคำถามเรื่องการดำเนินกิจกรรมทางทหารของรัสเซียในประเทศละตินอเมริกา หลังบ้านสหรัฐ ทางรัสเซียตอบแบ่งรับแบ่งสู้ว่าต้องพิจารณาตามสถานการณ์ ด้านเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ขู่กลับทันทีว่า ถ้ารัสเซียทำจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด
เอาละซี คงต้องติดตามกันอย่างตาไม่กะพริบว่า สหรัฐจะมีท่าทีอย่างไรต่อเรื่องนี้ ที่แน่ๆแค่รู้ข่าวนี้ก็ขนหัวลุกแล้ว!!